มุกดาหาร - ไทย-ลาวชื่นมื่น เปิดเพิ่มอีกแห่งศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้างจังหวัดมุกดาหาร เพื่อดูแลการเข้ามาทำงานแรงงานลาวทุกด้าน เผยเฉพาะ จ.มุกดาหาร มีแรงงานลาวนำเข้าตามระบบ MOU 283 คน ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม รองลงมาเป็นค้าปลีก-ค้าส่ง และแผงลอย
วันนี้ (4 เม.ย.) ที่สำนักงานเลขที่ 89/6 ถ.มุกดาหาร-ดอนตาล ต.ศรีบุญเรือง อ.เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้างจังหวัดมุกดาหาร โดยมี ดร.คำแพง ไซสมแพง รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ร่วมเป็นเกียรติในพิธี
จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้มีการประชุมหารือข้อราชการเกี่ยวกับสถานการณ์การปรับสถานภาพแรงงานลาวในประเทศไทย การจัดทำทะเบียนประวัติแรงงานลาว การอนุญาตให้แรงงานกลับบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 5-30 เมษายน 2561
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้างจังหวัดมุกดาหาร เป็นศูนย์ฯ ที่ให้ความรู้แก่แรงงานลาวที่จะเข้ามาทำงานในประเทศไทยตามระบบ MOU เกี่ยวกับการทำงาน โดยเฉพาะสัญญาจ้างงาน การใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย การตรวจสอบคัดกรองแรงงานก่อนอนุญาตให้เดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย ตรวจสอบและขอรับสิทธิพึงได้รับก่อนเดินทางกลับประเทศ
โดยศูนย์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่นายจ้างและแรงงานลาวให้ดำเนินการเป็นไปตามสัญญาจ้างงาน ซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ ให้ความคุ้มครองแรงงานตามมาตรฐานสากล และเป็นสถานที่ออกใบอนุญาตทำงานอีกด้วย
พ.ต.อ.อดุลย์กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมีแรงงานจาก สปป.ลาว จากแขวงสะหวันนะเขตจำนวนมากที่เดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยโดยต้องผ่านด่านจังหวัดหนองคาย (สะพานมิตรภาพไทย-ลาว - นครหลวง เวียงจันทน์) เพียงด่านเดียว จึงอาจไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องแรงงานลาวที่จะเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทย กระทรวงแรงงานโดยกรมการจัดหางานจึงได้เพิ่มศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้างจังหวัดมุกดาหาร อีก 1 แห่ง เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้ามาทำงาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อคนแขวงสะหวันนะเขต กับแขวงจำปาศักดิ์ และแขวงอื่นๆ อีกด้วย โดยจังหวัดมุกดาหารมีแรงงานลาวนำเข้าตามระบบ MOU จำนวน 283 คน ส่วนใหญ่เป็นประเภทกิจการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม รองลงมาเป็นค้าปลีก ค้าส่ง และแผงลอย และเกษตรตามลำดับ
พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวย้ำว่า การเปิดให้บริการของศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้างจังหวัดมุกดาหารจะนำไปสู่การบริหารจัดการการทำงานของแรงงานลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกระทรวงแรงงานจะดูแลพี่น้องชาวลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย รวมถึงนายจ้าง และสถานประกอบการที่จ้างแรงงานให้เกิดประโยชน์อย่างเท่าเทียม อันจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศชาติโดยรวมต่อไป
ด้าน ดร.คำแพง ไซสมแพง รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม สปป.ลาว กล่าวว่า ได้เปิดศูนย์แรกรับเข้าทำงานและสิ้นสุดการจ้างจังหวัดมุกดาหาร ถือเป็นจังหวัดที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในฐานะรัฐบาลไทยเอาใจใส่ด้านแรงงาน ในการเปิดศูนย์ซึ่งเป็นศูนย์มิตรภาพของแรงงาน ถือว่าแรงงานลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย และได้เข้ามาเยี่ยมชมขั้นตอนการทำงานที่เป็นระบบระเบียบ กะทัดรัดและรวดเร็ว ท่านรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานทั้ง 2 ประเทศเป็นกระทรวงเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้ปรึกษาหารือเรื่อง เป็นห่วงเป็นใยแก่แรงงานของ สปป.ลาว ที่ได้เข้ามาทำงานในประเทศไทยผิดกฎหมาย และทำให้นายจ้างทำถูกกฎหมายของไทย ซึ่งทำให้นายจ้างแรงงาน ผู้ประกอบการให้ถูกต้องตามระเบียบ ทำให้การพัฒนาทั้งสองประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป