เผยเหยื่อโกงทุนเสมาฯ ต้องกู้ กยศ. หางานพิเศษทำ ผ่อนค่าหน่วยกิตข้ามเทอมข้ามปี

ลำปาง - อาจารย์วิทยาลัยพยาบาลฯเ ผยต้องวิ่งหาทุน หางานช่วยเหยื่อโกงกองทุนเสมาฯ กันทุกปี บางรายต้องกู้ กยศ.เรียน บางรายต้องขอผ่อนผันค่าหน่วยกิต ค่าหอพักกันข้ามเทอม ข้ามปี บอกทั้งโทร.ถาม ทำหนังสือทวงเป็นทางการ แต่ไม่เคยได้รับการชี้แจง

หลังจากที่ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตามหลักการทุนเสมาพัฒนาชีวิต จะโอนเงินให้วิทยาลัย หรือเด็กที่ได้รับทุนในช่วงต้นปีการศึกษา แต่พบว่าเกิดความล่าช้า และโอนไม่ครบทุกปี ซึ่งข้อมูลการรับทุนโครงการเสมาพัฒนาชีวิต รวม 5 ปี คือ ตั้งแต่ปี 2555-2560 ที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีทั้ง 22 แห่งทั่วประเทศ รายงานมายังกระทรวงสาธารณสุข พบว่า จากจำนวนนักเรียนพยาบาลที่ได้รับทุนทั้งหมด 254 คน มีเพียง 56 คนเท่านั้นที่ได้รับเงินปีละ 40,000 บาทครบถ้วน

และจนถึงปัจจุบัน มีเด็กที่รับเงินทุนไม่ครบ 198 คน เป็นเด็กที่อยู่ระหว่างการศึกษา 161 คน จบการศึกษาแล้วได้เงินไม่ครบ 37 คน รวมเงินที่ค้างจ่าย 11,520,000 บาท พบมากที่สุดที่จังหวัดพะเยา 35 คน ค้างจ่ายรวมเป็นเงิน 2.6 ล้านบาท จังหวัดลำปาง 26 คน ค้างจ่ายรวมเป็นเงิน 1.7 ล้านบาท และพิษณุโลก 21 คน รวมค้างจ่ายเป็นเงินประมาณ 1 ล้านบาท

นางจรวยพร ทะแกล้วพันธุ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครลำปาง เปิดเผยว่า ขณะนี้นักศึกษาของวิทยาลัยฯ ที่ได้รับทุนไม่ครบมีอยู่ 30 คน เป็นเงินรวม 2 ล้านบาท โดยเริ่มไม่ได้รับทุนมาตั้งแต่ปี 2557 ขณะนั้นมีเด็กได้รับทุน จำนวน 23 คน ได้เงินทุนมา 20 คน ค้าง 3 คน ปี 2558 ไม่ได้รับเลยแม้แต่คนเดียว

ส่วนปี 2559 มีการโอนเงินมาให้ 26 คน แต่รายชื่อนักศึกษาได้รับทุนที่แนบมาเป็นรายชื่อนักศึกษาในปี 2558 ทางวิทยาลัยฯ จึงนำทุนที่ได้รับในปี 2559 มอบให้แก่เด็กที่มีรายชื่อปี 2558 แทน

สรุปคือ ยังมีเด็กที่ไม่ได้รับเงินทุนตั้งแต่ปี 2559-2560 รวมกับเด็กที่ยังไม่ได้รับในปี 2557 อีก 3 คน รวมเป็น 30 คน ซึ่งทั้งหมดยังคงศึกษาอยู่ ยอดเงิน 2 ล้านบาท ซึ่งแต่ละปีทางวิทยาลัยฯ ก็ทำหนังสือติดตามทั้งอย่างเป็นทางการ และโทรศัพท์ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า หรือรายละเอียดแต่อย่างใด

ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นทางวิทยาลัยฯ ได้ช่วยเหลือเด็ก 3 แบบ คือ 1.ให้นักศึกษาทำเรื่องขอผ่อนผันการชำระเงินค่าหน่วยกิตการลงทะเบียน ค่าหอพัก และอื่นๆ ที่ต้องชำระ 2.แจ้งแหล่งงาน เพื่อให้นักศึกษาได้หางานทำ เพื่อให้มีรายได้เข้ามาช่วยเหลือตนเองในบางส่วน และ 3.หาทุนการศึกษาจากหน่วยงานอื่นทั้งภายนอก และของอาจารย์ในวิทยาลัยฯ

ซึ่งในปีนี้ได้รับทุนจากภายนอกที่มอบให้เด็กไปรวมกว่า 4 แสนบาท ส่วนหน่วยงานภายในวิทยาลัยฯ คือ มูลนิธิเพื่อการศึกษาของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนี นครลำปาง ก็มอบทุนให้ 150 ทุนๆ ละตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท นอกจากนี้ เด็กที่ได้รับทุนก็ยังสามารถกู้ยืมเงินจาก กยศ. และนักศึกษาบางคนยังได้รับทุนจากอาจารย์ในวิทยาลัยฯ ที่มอบให้ในแต่ละปีด้วย

สำหรับกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต ที่วิทยาลัยฯ ได้รับมี 2 โครงการ คือ กองทุนเสมาพัฒนาชีวิต และโครงการผลิตพยาบาลเพื่อพัฒนาสุขภาพประชาชนจังหวัดชายแดน และจะมีทุนตามรอยสมเด็จย่า ซึ่งทุนทั้งหมดมาจากกระทรวงศึกษาธิการ และมีปัญหาในลักษณะเดียวกันทั้งหมดเช่นกัน

นางจรวยพร กล่าวอีกว่า ปัญหาที่พบ และตนอยากฝากถึงผู้ที่เป็นเจ้าของทุนว่า ควรนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปพัฒนากระบวนการให้ทุน โอนทุน มอบทุนให้เป็นระบบที่ชัดเจน อย่างเช่นที่พบปัญหาคือ บางปีที่โอนเงินมาให้ไม่ระบุรายชื่อนักศึกษาแนบ หรือโอนเงินโดยไม่มีหนังสือแนบรายละเอียด หรือบางปีมีการโอนเงินระบุว่า เป็นเงินของในปี พ.ศ.2559 แต่เอกสารแนบกับเป็นรายชื่อเด็กในปี 2558 ซึ่งไม่ตรงกัน ทำให้มองเห็นถึงระบบการบริหารจัด ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการที่จะให้ผู้บริหารกองทุนเสมาฯ นำไปปรับปรุงให้ดี และมีระบบมากยิ่งขึ้น