พิษณุโลก - ตำรวจเร่งรวบรวมหลักฐานขอออกหมายจับล่าขี้เมาสุดโหด ทุบหัวหลวงตาวัย 63 ปี พระลูกวัดฯ วังทอง เมืองสองแคว สลบเหมือดคาหลังกุฏิก่อนมรณภาพในเวลาต่อมา แถมชิงรถกระบะวัดบึ่งหนีข้ามจังหวัด
วันนี้ (26 มี.ค.) พ.ต.อ.สมศักดิ์ หฤรักษ์ ผกก.สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาหลักฐานคนใจบาปทุบหัวหลวงตาศรี หรือพระสมศรี อภิวณโณ อายุ 63 ปี พระลูกวัดหัวสะพานร่วมใจ หมู่ 17 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก บาดเจ็บสาหัสก่อนมรณภาพในเวลาต่อมา
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) หลังลูกศิษย์วัดที่เข้ามาทำบุญในตอนเช้าพบหลวงตาศรี หรือพระสมศรี อภิวณโณ ถูกทำร้ายโดยบังเอิญ ก่อนจะไปบอกพระครูธรรมธรวุฒิไกร อายุ 75 ปี เจ้าอาวาสให้ทราบเรื่อง พร้อมโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ พร้อมประสานทีมกู้ภัยบูรพามาช่วยเหลือ
พบว่า หลวงตาศรี หรือพระสมศรี อภิวณโณ ถูกตีศีรษะอย่างทารุน มีบาดแผลแตกฉีกขาดฉกรรจ์และบวมปูด เลือดไหลอาบ ดวงตาซ้ายถูกชกจนเขียวช้ำ นอนไม่ได้สติอยู่หลังกุฏิรับรองภายในวัด ต่อมาคนร้ายขโมยกุญแจขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน กบ 8620 พิษณุโลก หลบหนีไป
ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยบูรพาได้นำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลวังทองเนื่องจากมีอาการสาหัสจึงส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช อ.เมืองพิษณุโลก แต่หลวงตาศรีได้มรณภาพเมื่อช่วงกลางดึกคืนเดียวกัน
พ.ต.อ.สมศักดิ์ หฤรักษ์ ผกก.สภ.วังทอง กล่าวว่า ตำรวจสืบสวนกำลังเร่งติดตามคนร้าย ล่าสุดได้สอบปากคำพยานแวดล้อมแล้ว 3 ปาก และทราบรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย เป็นชายไทยอายุประมาณ 38 ปี ชาว จ.จันทบุรี ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพบว่ามีหมายจับในพื้นที่ จ.ลพบุรี ข้อหาฐานยักยอกทรัพย์ฯ
โดยหนึ่งในพยานให้การว่าคนร้ายเข้ามาในวัดเมื่อช่วงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 24 มี.ค. และได้ถือขวดสุรา 40 ดีกรีมานั่งดื่มบริเวณหน้าศาลพระภูมิเจ้าที่ภายในวัด อีกทั้งยังช่วยกวาดลานวัดจนถึงเย็น ต่อมามีชาวบ้านเห็นชายคนดังกล่าวเดินมาซื้อสุรามาดื่มกินต่อ และบอกชาวบ้านว่าจะมาบวชเป็นพระที่วัดแห่งนี้ ซึ่งชาวบ้านพูดตำหนิไปว่าจะมาบวชเป็นพระแล้วทำไมยังไม่เลิกดื่มสุราอีก เพราะวัดแห่งนี้เคร่งครัดมาก จนถึงเวลาค่ำก็ยังไม่เห็นชายคนดังกล่าวกลับออกมาแต่อย่างใด จนชาวบ้านมาทราบข่าวว่าหลวงตาศรีถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอมอาการสาหัสและมรณภาพในที่สุด
ทั้งนี้ คาดว่าขณะคนร้ายดื่มสุราอย่างหนัก ถูกหลวงตาศรีว่ากล่าวตักเตือน ทำให้เกิดความไม่พอใจจึงใช้อาวุธไม่ทราบชนิดตีเข้าที่ศีรษะอย่างแรง และชกต่อยที่ใบหน้าจนหงายท้องหมดสติไม่รู้สึกตัว ก่อนแอบขโมยกุญแจรถกระบะของวัดขับหลบหนีไป ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ภายในกุฏิคนร้ายไม่ได้เอาติดมือไปด้วย
ล่าสุดตำรวจอยู่ระหว่างเตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับคนร้ายแล้ว และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบรถกระบะต้องสงสัยอยู่ในเขต อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งชุดสืบสวนกำลังติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิดเพื่อจับกุมตัวมาสอบปากคำดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป