xs
xsm
sm
md
lg

แฉหมดเปลือก 1 ใน 7 สาวที่ถูกกล่าวหาพัวพัน สมีนิพนธ์ ยันไม่ได้เป็นเมียพระ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครปฐม - 1 ใน7 สาวที่ถูกระบุพัวพัน สมีนิพนธ์ แฉหมดเปลือก ยันไม่ได้เป็นเมียพระ เผย 2 สาวโยนเรื่องฉาวให้ คนแรกพนักงานต้อนรับสายการบินดัง อีกคนพนักงานขายประกัน สงสัยทำไปเพื่ออะไร ทั้งที่เป็นศิษย์ที่ให้ความศรัทธาต่อพระอาจารย์เหมือนกัน แจงสัปดาห์หน้าฟ้องร้องผู้ที่ทำให้เสียหาย

จากกรณีมีผู้ร้องเรียนหลายหน่วยงาน กรณี พระครูภาวนา โสภิต หรือ พระครูปลัดนิพนธ์ ธัมมทีโป อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าปฐมชัย อ.เมือง จ.นครปฐม มีพฤติกรรมเสพเมถุน และมีเมียในวัดถึง 7 คนโดย มีการบริหารจัดการการเงินที่ไม่โปร่งใส่ และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จากนั้นมีหญิงทั้ง 7 คนได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ ต่อหนักงานสอบสวน ที่ บก.อปท. เพื่อยืนยันไม่ได้เป็นไปตามที่ปรากฏในสื่อหลายวันที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (3 มี.ค.) น.ส.บี (นามสมมติ) 1 ใน 7 ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเมียพระครูภาวนา โสภิต หรือ พระครูปลัดนิพนธ์ ธัมมทีโป อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าปฐมชัย อ.เมือง จ.นครปฐม ได้ออกมาเปิดเผยถึงกรณีที่ มีผู้เข้าไปร้องเรียนว่าพระนิพนธ์ หรือสมีนิพนธ์ มีการเสพเมถุนและยักยอกทรัพย์ โดยมีเธอเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากผู้หญิง 2 คนที่ไปยื่นเรื่องกับสำนักงานพระพุทธ ศาสนาแห่งชาติ (พศ) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560

หลังจากนั้น 2 คนดังกล่าวก็หายไปจากวัด ทั้งที่เคยเป็นศิษย์ที่ให้ความศรัทธาต่อ พระอาจารย์นิพนธ์ ซึ่งตนก็ไม่ทราบสาเหตุ แต่ต่อมาก็เกิดเรื่องอย่างที่เป็นข่าว จนทำให้พระอาจารย์ต้องสึกออกจากวัดไป

"การที่ตนถูกกล่าวหาว่าเป็น 1 ใน 7 ผู้ที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวนั้น ตนรู้สึกโกรธมาก เพราะในขณะที่อยู่ในวัด ตนทำหน้าที่สอนธรรมะและหลักคำสอนให้กับเด็ก ๆ การกระทำเช่นนี้เหมือนเป็นการทำลายความรู้ทางพระพุทธศาสนา และมีเจตนาที่จะทำลายพระอาจารย์ด้วย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งที่ออกมาพูดว่ามีการขัดกันของผลประโยชน์ ยักยอกทรัพย์สิน มีการดื่มสุรา และเสพยาเสพติดในวัดนั้นตนขอยืนยันว่ามันไม่ใช่ความจริง" น.ส.บี กล่าว

อย่างไรก็ต้องสารภาพว่า เหตุการณ์ จากคลิปที่มีการดื่มของมึนเมาภายในวัดนั้นเป็นเพราะผู้หญิงที่เป็นแอร์โฮสเตสและผู้หญิงขายประกัน เป็นคนนำเข้ามา แต่ก็ยอมรับว่าได้ดื่มจริง และเมาจริง ไม่ทราบว่าทำไมถึงทำได้ขนาดนั้น เพราะจริงๆ แล้วตนดื่มเบียร์ไปแค่ 1 กระป๋องเท่านั้นเอง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว ซึ่งตนไม่ได้ผิดใจกับทั้ง 2 คนเลย

ทั้งนี้ มีคนบอกว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันหรือเปล่า ซึ่งตนก็ไม่ทราบ แต่ที่อยากรู้ว่าทำไปเพื่ออะไรเพราะในคลิปวันนั้นเห็นหน้าตนชัดมาก แต่กลับไม่เห็นหน้าของทั้ง 2 คนเลย ทั้งที่ ความจริงๆ แล้ว ผู้หญิงที่ขายประกัน เป็นคนถ่ายคลิปให้เห็นหน้าตนและพยายามถ่ายให้เห็นขาของหลวงพ่อด้วย เหมือนพยายามทำให้คนเห็นว่ามีการมั่วสุมภายในวัด

น.ส.บี กล่าวต่ออีกว่า ผู้หญิงที่เป็นแอร์โฮสเตส เข้ามาในวัดมาในนามของผู้ปฏิบัติธรรมนานกว่า 5-6 ปี ต่อมาผู้หญิงที่ขายประกันก็มาขออาศัยที่วัดได้ประมาณ1 ปี เนื่องจากมีปัญหากับทางบ้าน แต่ ขอว่าอย่าบอกใครว่ามีปัญหากับทางบ้าน และระหว่างที่เข้ามาอยู่ในวัดนั้นไม่มีใครรู้ว่าเขามีห้องอยู่ในวัด เพราะทุกคนนึกว่าเขาไปเช้าเย็นกลับ

จากนั้นผู้หญิงทั้ง 2 คนก็สนิทกัน และเข้าขากันมากขึ้น ซึ่งช่วงหลังๆ มีการขัดแย้งกันในบางเรื่องโดยมีบางเรื่องที่ไม่เห็นด้วย จนทำให้พระอาจารย์ต้องออกมาดุ และกล่าวตักเตือน จึงเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากพวกเขาอาจจะโกรธหรือไม่พอใจพระอาจารย์ที่ออกมาตักเตือนและห้ามปรามในบางเรื่อง และตั้งแต่มีการนำเสนอข่าว ก็ไม่สามารถติดต่อ สาวคนที่เป็นแอร์โฮสเตสได้อีกเลย ไม่ทราบว่าทำไม

อย่างไรก็ตาม ตนอยากทราบว่าต้นเหตุทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากใคร แต่ลึกๆ คิดแล้วว่าน่าจะเป็นผู้หญิง 2 คนที่ไปยื่นเรื่องต่อ พศ. ทั้งนี้ ยืนยันว่าพระอาจารย์สึกไปแล้วไม่ได้เข้ามาภายในวัดอีกเลย ส่วนที่ชาวบ้านออกมาพูดว่าเห็นคนเข้ามาขนของของพระอาจารย์อกไป ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเห็นมาจากไหน ขอบอกไว้เลยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง

ส่วนกรณี ที่มีคนออกมาบอกว่าพระพุทธรูปทองคำทั้ง 8 องค์ได้หายไปจากวัดก็ไม่เป็นเรื่องจริง เพราะพระพุทธรูปดังกล่าวยังประดิษฐ์สถานอยู่ภายในวัดภายใต้การดูแลของหลวงปู่ จึงเป็นไปไม่ได้ที่พระอาจารย์จะนำพระออกไปด้วย เนื่องจากมีคนมาถวายให้กับพระอาจารย์ แต่พระอาจารย์ปฏิเสธและยกให้เป็นของวัดเพื่อที่จะให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้บูชา และทุกปีจะนำพระออกมาสรงน้ำในวันสงกรานต์ แต่ตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวภายในวัดแล้ว

สำหรับเงินจำนวน 250 ล้านบาท ที่อ้างว่ามีในวัดนั้นพระอาจารย์ ไม่ได้เอาไปด้วยและเงินดังกล่าวก็ไม่มีอยู่จริง ไม่ทราบว่าผู้ที่กล่าวหาพวกตนไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน เพราะในขณะที่พระอาจารย์สึกออกจากวัด ลูกศิษย์ได้เรี่ยไรเงินมอบให้ท่านแค่ 15,000 บาท แถมยังเป็นหนี้อาคารที่ก่อสร้างภายในวัดอีก จนมีลูกศิษย์ช่วยเคลียร์หนี้ให้จนหมด จึงเห็นได้ว่าสิ่งที่ท่านทำนั้นเพื่อวัดทั้งหมด ไม่ได้มีการกระทำเหมือนที่มีการกล่าวหาแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าทำไมถึงได้นำชื่อตนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

ทั้งนี้ หลังจากที่ หญิงทั้ง 6 คน ได้เดินทางไปร้องเรียนต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 61 ที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่ออกมาให้ข้อมูลกล่าวหาพระอาจารย์นิพนธ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าปฐมชัยว่ามั่วสีกาและกล่าวหาพวกตนว่าเป็นภรรยาของพระนิพนธ์ จนสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับผู้เสียหายแล้ว

ส่วนในวันอังคารที่ 6 มีนาคมที่จะถึงนี้ พวกตนจะไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อตำรวจกองปราบปรามเพื่อให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่กล่าวหาพวกตนจนได้รับความเสียหาย จากนั้นจะไปยื่นหนังสือชี้แจงต่อสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อปฏิเสธว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง มีการใส่ร้ายป้ายสีจากกลุ่มคนบางกลุ่มที่ตนไม่ทราบมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการอะไร

ส่วนที่มีข่าวลืออกมาว่าพวกตนจะฟ้องสื่อด้วยนั้นยอมรับว่ามี แต่จะเลือกฟ้องบางค่ายเท่านั้นที่นำรูปภาพของตนพร้อมระบุชื่อของตนอย่างชัดเจน ในจำนวนนี้จะมีสื่อท้องถิ่นร่วมอยู่ด้วยที่นำภาพของพวกตนไปลงจนได้รับความเสียหายและเดือดร้อน



กำลังโหลดความคิดเห็น