ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ผบช.ภ.4 นำกำลังทหาร ตำรวจบุกทลาย 4 โกดังใหญ่ใน ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น พบรถยนต์จอดพักไว้มากถึง 46 คัน และไม้พะยูงจำนวนมาก เบื้องต้นตรวจยึดไว้ทั้งหมด เป็นที่น่าสังเกตว่ารถยนต์ที่จอดซุกในโกดังส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อและรุ่นที่ตลาดมืดฝั่งประเทศเพื่อนบ้านต้องการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวานนี้ (26 มี.ค.) พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พ.ต.อ.สุรศักดิ์ มโนทัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าพระ พ.อ.พิทักษ์พล ชูศรี หัวหน้าฝ่ายข่าวกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดขอนแก่น สนธิกำลังตำรวจ ทหารเข้าตรวจสอบโกดังดัดแปลงจำนวน 4 หลัง ภายในเนื้อที่ 40 ไร่ บ้านหนองแวง ต.ท่าพระ อ.เมือง
หลังสืบทราบว่าภายในโกดังต้องสงสัยมีการนำรถยนต์จำนวนมากมาจอดพักไว้ ทั้งใช้ผ้าสแลนสีดำกางปิดบังไว้โดยรอบ คนภายนอกไม่สามารถมองผ่านได้ โดยโกดังเหล่านี้มีนายภูมิพัฒน์ พัฒนสกุลเจริญ อายุ 38 ปี เป็นเจ้าของ
ภายหลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบรถยนต์จอดอยู่โรงจอดรถ 3 โรง รวมทั้งสิ้น 48 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดไว้ทั้งหมดเพื่อตรวจสอบหาเจ้าของรถที่แท้จริง นอกจากนี้ยังตรวจพบไม้พะยูงแปรรูปอยู่ภายในโรงจอดรถโรงแรกจำนวนมากอีกด้วย
พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า ก่อนจะมีการวางแผนสนธิกำลังเข้าตรวจค้นโกดังเหล่านี้ มี น.ส.กมลลักษณ์ พงษ์ฉัตรแก้ว เจ้าของธุรกิจให้เช่ารถยนต์ จ.อุดรธานีเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าพระ ว่ามีลูกค้าเช่ารถยนต์เก๋ง ทะเบียน กษ 1088 อุดรธานี ไปใช้ แต่เมื่อถึงกำหนดไม่ส่งคืน
เมื่อตรวจสัญญาณ GPS ในรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวพบว่าจอดอยู่ในสถานที่ทุ่งนาของนายภูมิพัฒน์ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารเข้ามาตรวจสอบ พบรถยนต์เก๋ง รถยนต์กระบะ หลายยี่ห้อ ประมาณ 46 คัน และ 1 ใน 46 คันเป็นรถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน กษ 1088 อุดรธานี
เบื้องต้นต้องอายัดรถยนต์ทั้งหมดไว้ก่อนเพื่อตรวจสอบเชิงลึกว่าเป็นรถยนต์ที่ถูกขโมยมาหรือไม่ เพราะรถยนต์ที่จอดในโกดังของนายภูมิพัฒน์ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ที่ประเทศเพื่อนบ้านริมแม่น้ำโขงต้องการมาก หากเป็นรถยนต์ที่โจรกรรมมาผู้ที่รับจำนำไว้ก็ต้องมีความผิดฐานรับของโจรด้วย
ส่วนไม้ต้องสงสัยว่าเป็นพะยูงที่ตรวจพบกองอยู่ในบริเวณโกดังก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาตรวจสอบว่าเป็นไม้ชนิดใดแน่ ประมาณเท่าไร ถ้าเป็นไม้พะยูงผู้ครอบครองก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
น.ส.กมลลักษณ์ พงษ์ฉัตรแก้ว เจ้าของธุรกิจเช่ารถยนต์ เล่าว่า รถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน กษ 1088 อุดรธานี คันดังกล่าวได้มีหญิงคนหนึ่งติดต่อขอเช่าเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา ในราคาค่าเช่าวันละ 1,100 บาท บอกว่าจะเช่าเพื่อขับรถเที่ยวในจังหวัดอุดรธานี และเมื่อตรวจสอบในช่วงวันแรกๆ จากระบบ GPS ยังพบรถอยู่ในพื้นที่อุดรธานีจริง
จนกระทั่งเมื่อถึงวันคืนรถยนต์ 22 มี.ค. 61 หญิงรายดังกล่าวกลับไม่นำรถยนต์ส่งคืน จึงตรวจสอบ GPS อีกครั้งไม่พบมีความเคลื่อนไหว แต่กลับนำรถมาจอดไว้ที่บ้านหนองแวง ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ สภ.ท่าพระ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารสนธิกำลังเข้าตรวจค้นโกดังแห่งนี้ก็พบว่ารถคันดังกล่าวจอดอยู่จริง นอกจากนี้รถยนต์กระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู ที่ถูกเช่ามาในวันเดียวกัน และ หายในวันเดียวกัน ก็ตรวจพบจากระบบ GPS ทราบว่าจอดอยู่ในพื้นที่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่นเช่นกัน