ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ม.ขอนแก่นพร้อมจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ” สร้างเมรุลอยนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกสีขาวขนาดใหญ่ที่สุด จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพฯ อังคารที่ 29 มกราคม 2562 ทั้งประสานหารือกับศิษย์หลวงพ่อคูณอย่างใกล้ชิด ชี้หลังเสร็จพิธีเตรียมสร้างอนุสรณ์สถานครอบไว้
วันนี้ (20 มี.ค. 61) ที่ห้องประชุมสารสินชั้น 2 อาคารสิริคุณากร สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดแถลงความพร้อมจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่เป็นกรณีพิเศษ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) โดยมี รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วย พระธรรมวิสุทธาจารย์ (หลวงพ่อคูณ ขันติโก) เจ้าอาวาสวัดหนองแวงพระอารามหลวง ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 9, นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น, รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์, รศ.ดร.ชูพงษ์ ทองคำสมุทร คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายบัญชายุทธ นาคมุจลินท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.นครราชสีมา ร่วมแถลงข่าว
รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า หลังพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา มรณภาพเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 เวลา 11.45 น. ด้วยอายุ 92 ปี ณ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้รับอนุญาตให้ดำเนินการตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อ นำสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ มาบำเพ็ญกุศล และมอบให้แก่นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ศึกษาเรียนรู้
สรีระสังขารหลวงพ่อคูณได้เคลื่อนสู่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2558 และนักศึกษากลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้ศึกษาเรียนรู้เป็นคุณอันอเนกอนันต์เรื่อยมา ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2561 นี้จะสิ้นสุดกระบวนการจัดการเรียนการสอน และจะเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่เป็นกรณีพิเศษต่อไป
เพื่อดำเนินตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะทำงานได้กำหนดพิธีบำเพ็ญกุศลในวันอังคารที่ 22-วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น และจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) ในวันอังคารที่ 29 มกราคม 2562 ณ พุทธมณฑลอีสาน จังหวัดขอนแก่น
เมรุลอยพระเทพวิทยาคมได้ออกแบบให้สอดคล้องกับประเพณีโบราณของอีสาน สำหรับพระสงฆ์ที่มีสมณศักดิ์สูงออกแบบเป็นรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหลัง ซึ่งเป็นการจินตนาการถึงสวรรค์ บนฐานแปดเหลี่ยม สูง 22.6 เมตร และฐานเมรุกว้าง 16 เมตร ประดับด้วยสรรพสัตว์ต่างๆ จากเขาพระสุเมรุจำลองตามคติในพระพุทธศาสนา มีรูปทรงและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แสดงถึงอัตลักษณ์ของชาวอีสาน ทั้งนี้มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ประสานหารือกับศิษย์หลวงพ่อคูณ รวมถึงหน่วยงานรัฐของ จ.นครราชสีมาอย่างใกล้ชิด การสร้างเมรุรูปนกหัสดีลิงค์เป็นที่ยอมรับและทำสิ่งที่ดีที่สุดต่อหลวงพ่อคูณ
หลังจากพิธีพระราชทานเพลิงศพอาจารย์ใหญ่ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) สถานที่ตรงนี้จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และได้วางแผนการก่อสร้างอนุสรณ์สถานครอบไว้ เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงคุณงามความดีให้ศิษยานุศิษย์สามารถเข้าสักการะได้ โดยรูปแบบทางสถาปัตยกรรมจะใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์ มีรูปแบบประยุกต์ เรียบง่าย สมถะ สันโดษ บรรยากาศภายในใช้แสงเป็นสัญลักษณ์แห่งนิพพาน