xs
xsm
sm
md
lg

สะเทือนใจ! “น้องมิวสิค”เด็กกาฬสินธุ์เขียน จม.ถึงแม่ติดคุกยะลา ส่อเป็นแพะคดีฉ้อโกง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์-เพื่อนบ้านสุดสะเทือนใจ เห็นสภาพความเป็นอยู่สองยายหลานยากจน นางประไพนี อาทิกร และ “น้องมิวสิค” อายุ 8 ปี หลัง น.ส.วารีรัตน์ สำเร็จงาน ผู้เป็นแม่ถูกจับติดคุกยะลา เขียนจดหมายระบายความคิดถึง ไม่รู้ชะตากรรมเป็นตายร้ายดี หลัง ตร.คุมตัวไปจากบ้านที่ อ.เขาวง เมื่อ พ.ย.60 ในคดีฉ้อโกง แหล่งข่าวระบุ ตำรวจมีหลักฐานผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชี น.ส.วารีรัตน์ ก่อนที่อดีตสามีกับผู้หญิง 2 คนไปกดเอาเงิน

จากกรณีนางประไพนี อาทิกร อายุ 57 ปี บ้านเลขที่ 60/2 หมู่ 7 ต.สระพังทอง ชาวบ้านและคนจนในเขต อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์ดำรงธรรม อ.เขาวง ในโอกาสเดินทางตรวจราชการที่ อ.เขาวง เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 60 หลังนางสาววารีรัตน์ สำเร็จงาน อายุ 37 ปี ลูกสาวถูกตำรวจยะลา นำหมายศาลมาจับกุมและควบคุมตัวไปต่อหน้าต่อตาโดยไม่อธิบายถึงเหตุผล ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด (วันที่ 17 มี.ค.) ที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้า การให้ความช่วยเหลือนางประไพนี โดยนายสนุน แจะหอม นิติกรปฏิบัติการประจำศูนย์ดำรงธรรมฯ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 60 ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากนางประไพนี จริง เป็นหนังสือขอความช่วยเหลือ กรณีนางสาววารีรัตน์ ลูกสาวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งได้ลงรับเลขที่ กส. พิเศษ เขาวง 005 จุดที่ 1 ณ ที่ว่าการ อ.เขาวง

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฯ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชี้แจงให้นางประไพนี ทราบถึงสาเหตุเป็นที่เข้าใจแล้ว ว่านางสาววารีรัตน์ ถูกจับตามหมายศาล จ.ยะลา ที่ จล. 191/2555 ลง 31 กรกฎาคม 2555 ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง

นางวราภรณ์ เปล่งแสง ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติ จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะยุติธรรม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ได้รับการประสานจากยุติธรรม จ.ยะลา ให้ดำเนินการตรวจสอบสภาพครอบครัวนางสาววารีรัตน์ผู้ต้องหา ที่ต้องการความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม ในการต่อสู้คดีตามสิทธิ์ โดยได้มอบหมายเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจ เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง ว่าจะเข้าเกณฑ์ได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมหรือไม่ ก่อนส่งข้อมูลไปที่ยุติธรรม จ.ยะลา ซึ่งอยู่ในช่วงของการดำเนินการ

ขณะที่ในส่วนของการช่วยเหลือน้องมิวสิค บุตรชายนางสาววารีรัตน์ นั้น ก็จะได้ประสานบ้านพักเด็กและครอบครัวฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาให้ความช่วยเหลือต่อไป

จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยุติธรรมฯ พบว่าฐานะนางประไพนี ยากจน อาศัยเป็นบ้านติดพื้นชั้นเดียว หลังเล็ก สภาพค่อนข้างทรุดโทรม ที่ผ่านมาเคยมีนางสาววารีรัตน์ ลูกสาวหาเลี้ยงชีพ โดยจะเป็นคนออกหาอาหารป่า เช่น ไข่มดแดง หน่อไม้ ยอดผักหวาน ประทังชีวิต วันไหนหาได้มากก็นำไปขายให้กับเพื่อนบ้าน

ขณะที่นางประไพศรี จะรับจ้างทอผ้า มีรายได้รวมกันเพียงเดือนละประมาณ 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่ารายจ่ายทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าฌาปนกิจหมู่บ้าน ค่าขนมลูกไปโรงเรียน ต้องกู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน ธกส.และกลุ่มสตรี เป็นทุนหมุนเวียนเลี้ยงชีพ โดยมียอดหนี้รวม 332,500 บาท ทำให้ความเป็นอยู่ขัดสนมาก

โดยเฉพาะหลังจากที่นางสาววารีรัตน์ถูกจับกุม ความเป็นอยู่ยิ่งลำบาก สภาพร่างกายและจิตใจอ่อนแอ โดยนางประไพนี มีการเป็นโรคหัวใจรุมเร้า และน้องมิวสิคบุตรชายก็มีอาการซึมเศร้า เพราะคิดถึงแม่มาก จากที่เคยเป็นเด็กร่าเริงก็กลายเป็นเงียบขรึม มักจะนำภาพถ่ายของนางวารีรัตน์ฯมาดูและบ่นถึง

แม้แต่เข้านอนก็ต้องนอนกอดภาพถ่ายแม่ทุกคืน ซึ่งสองยายหลานตกอยู่ในสภาพนี้มาตลอดระยะเวลา 3 เดือนเศษที่นางสาววารีรัตน์ถูกจับตัวไปอย่างไม่รู้ชะตากรรม จึงเป็นภาพที่สะเทือนใจแก่เพื่อนบ้านและผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

วันนี้ น้องมิวสิค ได้นำจดหมายที่เขียนระบายความรู้สึกถึงนางสาววารีรัตน์ ผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง โดยเขียนไว้ตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. 61 เพื่อฝากเจ้าหน้าที่ยุติธรรมฯ นำส่งถึงแม่

เนื้อหาในจดหมายมีใจความว่า “ถึงแม่ แม่ครับ แม่อยู่ที่นั่นสบายดีไหมครับ ผมอยากบอกแม่ว่า ผมสอบเสร็จแล้ว และก็เข้าค่ายลูกเสือเสร็จแล้ว และผมก็ได้ปิดเทอมแล้วด้วย ผมมีความสุขมากๆ เลย ปล.ผมคิดถึงแม่มากที่สุดเลย น้องมิวสิค”

ทั้งนี้ แหล่งข่าวแจ้งว่า จากการที่นางสาววารีรัตน์ ถูกจับกุมข้อหาร่วมกันฉ้อโกงนั้น สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายรายหนึ่งได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองยะลา ว่ามีบุคคลโทรศัพท์เชิงข่มขู่ให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของบัญชีเป็นชื่อนางสาววารีรัตน์จำนวน 5 หมื่นบาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตามแกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดตามตู้เอทีเอ็ม และพบเบาะแสเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560

โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพอดีตสามีของนางสาววารีรัตน์ ที่แยกทางกันเมื่อปี 2554 กับผู้หญิง 2 คนเดินไปถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม ก่อนที่จะมีตำรวจยะลา นำหมายศาลมาจับกุมนางสาววารีรัตน์ ที่บ้าน เมื่อตอนเช้าของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 และนางประไพนี เขียนหนังสือร้องทุกข์กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2560 ดังกล่าว

คดีนี้ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ให้ความสนใจเป็นพิเศษ หลังได้รับรายงานทราบว่า นางประไพนี ที่อุปการะน้องมิวสิค ฐานะยากจน และกำลังประสบกับความทุกข์เข็ญ ได้กำชับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือ ชาวบ้านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและประสบความเดือดร้อน

เพราะขณะนี้ทางจังหวัด กำลังบูรณาการกับทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนโครงการกาฬสินธุ์แฮปปี้เนส โมเดล คนกาฬสินธุ์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งจะต้องรีบเร่งปลดเปลื้องทุกข์ และคืนความสุขให้กับครอบครัวนี้โดยเร็ว



กำลังโหลดความคิดเห็น