ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตามคาด ป.ป.ท.ลุยตรวจสอบการใช้งบสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยนิคมสร้างตนเองอุบลรัตน์ พบโกงซ้ำรอยนิคมเชียงพิณที่อุดรฯ ชาวบ้านได้รับเงินไม่ตรงตัวเลขตั้งฎีกาเบิก ทั้งก่อนลงพื้นที่มีคนของนิคมกำชับชาวบ้านให้บอก จนท.ได้รับครบ ลุยสางโกงต่ออีก 30 นิคมฯ ทั่วไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่บ้านหนองแวง ต.นาคำ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบการใช้งบประมาณอุดหนุนสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่พึ่ง ซึ่งหมู่บ้านหนองแวงเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์
การตรวจสอบการใช้งบประมาณครั้งนี้เป็นการขยายผลต่อเนื่องจากการตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ซึ่งพบว่ามีการทุจริตมากถึง 44 จังหวัดทั่วประเทศ วงเงินงบประมาณกว่า 97 ล้านบาท โดยพื้นที่ภาคอีสานพบมูลทุจริต 17 จังหวัดจาก 20 จังหวัด
พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รักษาการเลขาธิการ ป.ป.ท.เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ได้ลงพื้นที่นิคมสร้างตนเองเชียงพิณ จ.อุดรธานี ผลการการตรวจสอบพบมูลการทุจริตเช่นกัน ส่วนการตรวจสอบนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งได้รับงบประมาณช่วยผู้ยากไร้ ปี 2560 งบกว่า 11 ล้านบาท พบการนำมามอบให้กลุ่มอาชีพ แต่ข้อเท็จจริงชาวบ้านไม่ได้รับเงินในจำนวนตามที่ทางนิคมสร้าง ตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ตั้งฎีกาเบิกจ่าย
สำหรับนิคมสร้างตนเองในอีสานแต่ละแห่ง ได้รับงบประมาณช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งสูงถึง 30 ล้านบาท ตามกฎระเบียบแต่ละคนสามารถได้รับเงินช่วยเหลือรายละไม่เกิน 3,000 บาทต่อครั้งต่อปี แต่ชาวบ้านหนองแวงแห่งนี้ มีชื่อมีลายเซ็นรับเงิน 3,000 บาท มากถึง 4 ครั้ง/ปี
อย่างไรก็ตาม พ.ท.กรทิพย์ระบุว่า ก่อนเข้าตรวจสอบข้อมูลการทุจริตในวันนี้ ทราบมาว่าได้มีเจ้าหน้าที่จาก นิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์มาบอกกับชาวบ้านว่าหากมีใครถามเรื่องเงินช่วยเหลือผู้ยากไร้ ให้บอกไปว่าได้รับแล้วทุกคน แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เข้าตรวจสอบในพื้นที่กลับพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นจริง ขั้นตอนต่อไปจะต้องเร่งรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อดำเนินการทางคดี
ทางด้านนายเชิดชัย ฐานะ อายุ 51 ปี กำนันตำบลบ้านดง อ.เขื่อนอุบลรัตน์ กล่าวว่าในหมู่บ้าน ชาวบ้านส่วนใหญ่จะรวมตัวกันตั้งเป็นกลุ่มอาชีพหลายๆ กลุ่ม กลุ่มที่กำลังพบปัญหา คือ กลุ่มเลี้ยงปลาหมอเทศ ที่มีสมาชิกจำนวน 50 ราย คือ ชาวบ้านขุนด่าน ม.1 บ้านดง ม.2 และบ้านดง ม.3 โดยในปี 2560 ที่ผ่านมา นิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์ได้ให้เงินสนับสนุนกลุ่ม 2 ครั้ง ครั้งแรก 5,000 บาท กลุ่มก็นำมาบริหารจัดการในเรื่องของการซื้อหัวอาหาร ทำกระชัง และวัสดุอื่นๆ ครั้งที่ 2 นิคมสร้างตนเองสนับสนุนเงินให้แก่กลุ่มฯ อีกครั้ง แต่คราวนี้จ่ายเป็นรายบุคคล คนละ 3,000 บาท
เมื่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.มาตรวจสอบชาวบ้านที่เป็นสมาชิกกลุ่มฯ ทั้ง 50 คน กลับมีชื่อรับเงินสนับสนุนคนละ 3,000 บาท ทั้ง 2 ครั้ง ซึ่งไม่เป็นไปตามความจริง จึงเรียกร้องให้ ป.ป.ท.มาทำการตรวจสอบเงิน 100,000 บาทที่หายไปว่าไปอยู่ที่ใด เนื่องจากชาวบ้านต้องการทราบความจริง
นายสุทธินันท์ สาราษฎร์ อาย 46 ปี เลขานุการกลุ่มอาชีพปั้นกระถาง บ้านขุนด่าน ม.1 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ในปี 2560 ได้รวมตัวกับคณะกรรมการหมู่บ้านตั้งกลุ่มอาชีพขึ้นมา คือ กลุ่มปั้นกระถาง มีสมาชิกทั้งหมด 19 ราย ช่วงกลางปีที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่จากนิคมสร้างตนเองเขื่อนอุบลรัตน์บอกว่ามีเงินสนับสนุนกลุ่มอาชีพให้ชาวบ้าน แต่กลุ่มปั้นกระถางมีกรรมการหมู่บ้านรวมอยู่ด้วย จึงได้รับเงินสนับสนุนเพียง 15,000 บาท ซึ่งการรับเงินนั้นประธานกลุ่มไปรับ ณ ที่ทำการนิคมฯ ก็นำเงินจำนวนดังกล่าวมาบริหารจัดการภายในกลุ่ม สมาชิกทุกคนก็เห็นดีด้วย แต่การรับเงินนั้นสมาชิกทุกคนต้องมอบเอกสารสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านให้ทางนิคมสร้างตนเอง พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.มาตรวจสอบจึงได้ทราบว่าสมาชิกกลุ่มทั้ง 19 คนนั้น มีชื่อรับเงินสงเคราะห์จากนิคมฯ ในนามคนมีรายได้น้อยไร้ที่พึ่ง รายละ 3,000 บาท ซึ่งไม่เป็นความจริง ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบคนที่โกงเอาเงินชาวบ้านไป มารับผิดตามกฎหมายให้ด้วย
สำหรับการเข้าตรวจสอบนิคมสร้างตนเองเชียงพิณ จ.อุดรธานี และนิคมสร้างตนเองอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เป็นเพียง 2 แห่งแรกที่นำร่องตรวจสอบ ก่อนจะเข้าตรวจสอบนิคมสร้างตนเองอีก 30 แห่งทั่วประเทศ