ลำปาง - ยายเด็กหญิงวัย 10 ขวบ เหยื่อเฒ่าหื่นหลอกทำอนาจารในห้องน้ำสวนสาธารณะโร่ร้องสื่อกลางดึก หลังแม่เหยื่อถูกหลอกให้รับเงินหมื่นแลกกับไม่เอาเรื่องทั้งแพ่ง-อาญา แถมให้เซ็นเอกสารเสร็จสรรพทั้งที่ไม่รู้หนังสือ บอกทนายอ่านให้ฟังแค่ค่าเยียวยาเท่านั้น
นางมา (นามสมมติ) อายุ 56 ปี ได้พาลูกสาวคือ นางน้อย (นามสมมติ) นำเอกสารพร้อมเงินสดจำนวน 1 หมื่นบาท มาร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าวเมื่อเวลา 23.00 น.เศษที่ผ่านมา (6 มี.ค.) หลังนางน้อย และหลานสาวได้ไปพบทนายความ และรับเงินดังกล่าวมาช่วงเย็นวันเดียวกัน
นางมาบอกว่า เมื่อตนมาดูเอกสารตอนกลางคืน ถึงได้รู้ว่าเงินที่นางน้อยไปรับมานั้นเป็นการแลกกับที่จะไม่เอาเรื่องทั้งทางแพ่ง และอาญากับคู่กรณีที่ทำอนาจารหลานสาว จึงยอมไม่ได้ พร้อมได้ต่อว่านางน้อย ลูกสาวที่ไปรับเงินมา และยอมเซ็นเอกสารดังกล่าว ทั้งๆ ที่ไม่รู้หนังสือ จึงต้องการจะให้นำเงินไปคืน และให้ตำรวจดำเนินคดีต่อไปจนถึงที่สุด
“ฉันรับไม่ได้ที่หลอกให้ลูกสาวของฉันเซ็นเอกสารโดยที่อ่านหนังสือไม่ได้”
ด้านนางน้อยบอกว่า ช่วงเย็นลูกชายของจำเลยได้โทรศัพท์มาบอกให้ไปรับเงิน โดยบอกว่าเป็นเงินเยียวยาเท่านั้น เมื่อไปถึงทนายความ และลูกชายจำเลยได้ให้ตนเข้าไปในห้อง และอ่านเอกสารให้ฟังเพียงว่าตนขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาเป็นเงิน 1 หมื่นบาทเท่านั้น ส่วนเนื้อหาอื่นๆ ในหนังสือทางทนายไม่ได้อ่านให้ฟัง
แต่ลูกชายจำเลยบอกเพียงว่าขอให้เซ็นเอกสารดังกล่าวด้วย เพราะวันนี้ (7 มี.ค.) จะต้องนำตัวพ่อ หรือจำเลยไปขึ้นศาลเพื่อศาลจะได้เมตตาลดโทษให้เพราะพ่อจะรับสารภาพ และถึงอย่างไรพ่อก็ต้องติดคุกอยู่แล้ว ตนจึงเซ็นเอกสารและรับเงิน 1 หมื่นบาทกลับมาบ้าน
ขณะที่นางมากล่าวด้วยความโกรธว่า การทำแบบนี้เท่ากับว่ามาหลอกให้ลูกสาวของตนเองเซ็นเอกสารทั้งๆ ที่ไม่รู้หนังสือ ซึ่งก็ยอมรับว่าลูกสาวตนเองโง่ และไม่ยอมบอก จนตนมารู้ภายหลังที่ไปรับเงินมาแล้ว หลังทราบเรื่องจึงโทรศัพท์ไปถามตำรวจเจ้าของคดี ซึ่งตำรวจก็ไม่ทราบเรื่องที่ฝ่ายจำเลยเรียกให้ลูกสาวตนไปรับเงินแต่อย่างใด
“ฉันขอยืนยันว่าจะให้ตำรวจดำเนินคดีต่อไปให้ถึงที่สุด จะไม่มีการยอมความหรือรับเงินใดๆ เพราะหลานสาวถูกย่ำยีมานานแล้ว และในวันนี้ก็จะให้ลูกสาวนำเงินไปคืนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป”
สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากนางน้อยได้พาลูกสาววัย 10 ขวบเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ศิริเวช ใจแสนวงค์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลำปาง ดำเนินคดีนายโดด เฒ่าวัย 68 ปี เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 60 ก่อนที่จะมีการโอนคดีต่อให้ ร.ต.อ.หญิง สุพาศรี จิโนเขียว รอง สว.(สอบสวน) เป็นเจ้าของคดีแทน เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน
โดยระบุว่า นายโดด ที่ได้พาเด็กหญิงน้ำ (นามสมมติ) ไปทำอนาจารทั้งในห้องน้ำวัด, ห้องน้ำในสวนสาธารณะเขื่อน และพงหญ้าข้างสวนสาธารณะ รวมแล้วกว่า 10 ครั้ง ตลอดเกือบหนึ่งปี โดยแต่ละครั้งนายโดดได้ให้เงินแก่เด็กหญิงน้ำครั้งละ 300-500 บาท
แต่เรื่องมาแดงขึ้นเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 60 ระหว่างนายโดดล่อลวงเด็กหญิงน้ำไปที่ห้องน้ำสาธารณะเขื่อนครั้งล่าสุด และได้พยายามที่จะสอดใส่อวัยวะเพศเข้ามาในตัวของเด็กหญิง โดยบอกว่าถ้าทนเจ็บได้ก็จะให้เงินมากถึง 2,000 บาท แต่ระหว่างนั้นเด็กหญิงเกิดเจ็บ และได้ร้องเสียงดังจนมีชาวบ้านได้ยินจึงได้เข้าไปดู ก่อนที่นายโดดจะทิ้งเงินไว้ให้เด็กหญิงน้ำจำนวน 500 บาท แล้ววิ่งออกจากห้องน้ำขี่จักรยานหลบหนีไป ทำให้นางน้อยรู้เรื่อง และพาลูกสาวเข้าแจ้งความดังกล่าว
