กาฬสินธุ์ - “หมอจ่อย” หมอนวดพื้นบ้าน แหกตำราแพทย์ทุกสถาบัน “เหยียบจอบนวดเผาไฟ” ยังรักษาคนไข้ต่อเนื่องนานกว่า 30 ปี แก้อาการปวดเมื่อย เจ็บปวดตามร่างกาย แก้ปัญหาเส้นประสาทกดทับตามร่างกาย มีคนไข้แห่รักษาทั้งขาประจำ ขาจร หลากหลายอาชีพ เผยอยากได้ลูกศิษย์ที่สนใจสืบทอดวิชา พร้อมถ่ายทอดทั้งสูตรสมุนไพรและทุกกระบวนท่านวด
เมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมา “หมอจ่อย” หรือ นายสุพันธุ์ หารปราบ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 7 บ้านพนมทอง ต.ห้วยเม็ก อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เป็นข่าวใหญ่ฮือฮากันทั้งประเทศ กรณีเปิดรักษาคนไข้ด้วยวิธีแปลกประหลาด ที่รู้จักกันดีว่า “หมอนวดเท้าไฟ” โดยใช้เท้าทั้งสองข้างเหยียบจอบเผาไฟสลับไปมาเพื่อรักษาคนไข้ที่มารอคิวตลอดทั้งวัน
ล่าสุดจากการตรวจสอบที่บ้านพักของหมอจ่อยยังพบว่า มีคนไข้จากทั่วสารทิศเดินทางมารักษาไม่ขาดสายเช่นเดิม ขณะที่ค่ารักษาหมอจ่อยให้จ่ายตามกำลังศรัทธาไม่เรียกเก็ ต่อย่างใด
นายสุพันธุ์ หารปราบ หรือหมอจ่อย เล่าว่า เดิมเป็น อสม. ชอบศึกษาหาความรู้เรื่องสมุนไพร ได้เรียนวิชานวด จับเส้น และเปิดนวดบริการในชุมชน นอกจากนี้ยังได้รับความเมตตาจากพระครูมงคลสิทธิ์ (นิน ฐิตะธมมฺโม) เจ้าคณะตำบลห้วยเม็ก วิชาสมุนไพรพื้นบ้าน และการนวดจับเส้น เอ็น กระดูก จนมีความเชี่ยวชาญ และส่งไปร่ำเรียนเพิ่มเติมวิชาเท้าไฟที่ จ.มหาสารคาม
“รักษาคนไข้อาการต่างๆ มานานกว่า 34 ปี ใช้จอบเผาไฟรักษาคนหมดไปกว่า 10 อัน คนไข้จากปกติมาวันละหลายสิบคน จนต้องลดจำนวนรักษาต่อวันเหลือ 15 คนเพราะอายุเริ่มมากขึ้น อีกทั้งอยากรักษาคนไข้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะวันพระจะงดรับรักษาประชาชนทั่วไป จะรักษาเฉพาะพระภิกษุสงฆ์ มีเวลาว่างก็จะเข้าวัดทำบุญ สวดมนต์ ทำเป็นวัตรปฏิบัติเช่นนี้มาตลอด” หมอจ่อยบอก และเล่าอีกว่า
ขั้นตอนการรักษา จะเริ่มต้นจากการนวดคนไข้ด้วยน้ำมันมะพร้าว น้ำมันงาที่ทำขึ้นเอง จากนั้นจะใช้เท้าเหยียบจอบที่เผาไฟร้อนๆ แล้วเอาเท้านั้นมานวดตามร่างกายส่วนต่างๆ ตั้งแต่วันแรกที่เรียนจนถึงตอนนี้เหยียบจอบร้อนๆ ไม่รู้สึกใดๆ เพราะร่ำเรียนมามีคาถาที่สืบทอดต่อจากครูอาจารย์ และทำไมต้องเป็นจอบ ที่ใช้มาเผาไฟรักษาคนไข้ก็เพราะจอบจะช่วยขุดอาการเจ็บป่วย ปวดที่ทนทุกข์ทรมานมานานให้หายไปนั่นเอง
หมอจ่อยบอกอีกว่า หลังจากที่เป็นข่าวฮือฮาดังไปทั่วประเทศเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว ประชาชนที่มีอาการเจ็บป่วยจากโรคปวดตามตัว กระดูก เส้นเอ็น แห่มารับการรักษาจำนวนมาก บางรายเดินทางมาไกล มาถึงตี 2 ตี 3 เราก็เปิดรักษา มีคนไข้รายใหม่ๆ เข้ามาให้รักษาทุกอาชีพทุกระดับ
ส่วนประกอบสำคัญของการรักษา ทั้งน้ำมันมะพร้าวและน้ำงานั้นต้องทำขึ้นเอง ขณะที่การเหยียบรักษาจะใช้เวลา 45 นาที ถึง 1 ชม. โดยจอบที่เผาด้วยไฟร้อนๆ จะเริ่มตั้งเตาตั้งแต่เวลา 05.00 น.ของทุกวัน ถ่านไม้เนื้อดีจะถูกเติมเพื่อเพิ่มความร้อนตลอดทั้งวันจนกระทั่งเสร็จสิ้นการรักษาก็จะดับไฟให้มอดลง
หมอจ่อยกล่าวอีกว่า คนที่เข้ามารับการรักษาในยุคนี้อาการป่วยไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก เช่น กลุ่มปวดเรื้อรัง เจ็บปวดตามข้อ กระดูก กล้ามเนื้อ และเส้นเอ็น จากอุบัติเหตุ และการทำงานหนัก ขณะเดียวกันโรคที่พบใหม่อย่างกระดูกทับเส้นประสาท มีคนป่วยหลายคนที่จะต้องผ่าตัดเมื่อรักษาไปเพียงครั้งเดียวก็หายขาดไม่ต้องไปผ่าตัดเลย
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้อยากได้คนรุ่นใหม่มาเรียนรู้วิชาการนวดให้สืบทอดต่อจากตน เพราะอายุที่มากขึ้นแต่คนไข้มารักษายังเยอะขึ้นทุกๆ ปี เป็นไปได้หากตั้งจิตตั้งใจดีก็พร้อมจะสอนวิชาให้เพื่อจะได้ช่วยกันรักษาคนไข้ ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากร่วมทำบุญเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
นางสาวสุจิตรา ภักดี อายุ 31 ปี เป็นคนในพื้นที่ ต.หัวหิน อ.ห้วยเม็ก เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อรับรักษา หลังไปที่โรงพยาบาลตรวจร่างกายจากการเจ็บปวดทรมานที่บริเวณกระดูกสันหลัง ชาตัวซีกซ้าย ล้มหมอนนอนเสื่อเกือบ 1 ปี แต่เมื่อมารักษากับหมอจ่อยอย่างต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 2 อาการปวดหายไปอย่างปลิดทิ้ง จนไม่ต้องผ่าตัดจากโรคกระดูกทับเส้นประสาท
นางสาวสุจิตราเล่าว่า อาการปวดกำเริบอย่างหนักเมื่อราวปี 2559 ถึงขั้นลุกเดินลำบากมาก ญาติพี่น้องต้องช่วยประคองเข้าห้องน้ำ หรือเดินไปไหนมาไหนก็ต้องมีคนช่วย ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนหลายแห่ง กินยาสามัญหลายแขนงก็ไม่ดีขึ้น กลับทำให้อาการปวดเพิ่มมากขึ้นจนซีกซ้ายเริ่มชาไม่รู้สึก หมอที่ดูแลอาการแนะนำให้ผ่าตัดเพราะกระดูกทับเส้นประสาท เลยเกิดลังเลเพราะกลัวการผ่าตัด
หลังจากนั้นได้มีเพื่อนแนะนำให้มานวดกับหมอจ่อย จึงเดินทางมารับการรักษาด้วยการนวดเท้าไฟของหมอจ่อย ครั้งแรกอาการปวดได้หายไป อาการชาซีกซ้ายเริ่มดีขึ้น จนถึงตอนนี้อาการปวดหายไป แต่ที่แวะเวียนมานวดเพื่อป้องกันไม่ให้อาการกลับมากำเริบอีก