เชียงราย - เข้าทำนองบุญมีแต่กรรมบัง..จีนบูม “ท่าเรือกวนเหล่ย” ลดภาษีนำเข้าเหลือ 4%-ฟรีแวต แถมไฟเขียวขายได้ทั่วประเทศ แต่น้ำโขงแห้ง-ขนส่งยาก เรือสินค้าขนาดใหญ่เริ่มหยุด แม้แต่เรือเล็กยังต้องเล็งหาร่องน้ำ-สร้างสะพานให้คนขึ้น-ลงยาวกว่า 30 เมตร
วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้แม่น้ำโขงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำชายแดนไทย-สปป.ลาว และพม่า เริ่มแห้งลงจนเห็นหาดทรายโผล่ขึ้นมากลางแม่น้ำ แม้แต่เรือเล็กต้องแล่นเลาะไปตามร่องน้ำที่เหลืออยู่ ขณะที่เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่เริ่มหยุดการเดินเรือแล้วในช่วงนี้
ขณะที่เรือหางยาวที่คอยบริการนำนักท่องเที่ยวล่องเรือชมวิวทิวทัศน์ในแม่น้ำโขง และบริการเรือข้ามฟากไปมาระหว่าง อ.เชียงแสนกับประเทศเพื่อนบ้านก็ไม่สามารถเข้าจอดยังท่าเรือริมฝั่งได้โดยสะดวก จนต้องทำสะพานไม้ยื่นออกไปในแม่น้ำโขงเป็นระยะทางยาวกว่า 30 เมตร เพื่อให้นักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการเดินข้ามสะพานไปขึ้น-ลงเรือ จนกว่าระดับน้ำจะกลับสู่ภาวะปกติ
ด้านนายพัฒนา สิทธิสมบัติ ประธานเครือข่าย MOC (Minister of commerce) บิสคลับ 17 จังหวัดภาคเหนือ และ จ.เชียงราย, ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ตอนนี้ท่าเรือกวนเหล่ย ซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านในแม่น้ำโขงของจีน ห่างจากสามเหลี่ยมทองคำขึ้นไปทางทิศเหนือประมาณ 263 กิโลเมตร ได้มีการปรับปรุงท่าเรือเพื่อรองรับสินค้าผลไม้ และสินค้าแช่แข็งอย่างขนานใหญ่ ตามโครงการวันเบลต์ วันโรด ของรัฐบาลจีน
โดยมีการกำหนดอัตราภาษีสินค้าประเภทผลไม้ และอาหารแช่แข็งขาเข้าสู่ประเทศจีนเหลือเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น รวมทั้งยังไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มขาเข้า และสามารถขนส่งสินค้าที่นำเข้าดังกล่าวไปจำหน่ายได้ทั่วประเทศจีน เพื่อดึงดูดให้มีการขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือแม่น้ำโขงแห่งนี้มากขึ้นด้วย
อัตราดังกล่าวแตกต่างจากปี 2560 ที่ผ่านมา และแตกต่างจากด่านอื่นๆ ของจีนที่มีพิกัดอัตราภาษีสูงกว่านี้มาก โดยเฉพาะสินค้าจากไทยที่ไม่ได้มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศจีน ที่กำหนดการนำเข้าส่วนบุคคล หรือกองทัพมดรายละไม่เกินมูลค่า 8,000 หยวน และหากเป็นนิติบุคคลต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 17% รวมทั้งกำหนดให้จำหน่ายได้เฉพาะในเขตปกครองตนเองสิบสองปันนาเท่านั้น โดยไม่สามารถนำออกไปจำหน่ายนอกเขตดังกล่าวได้อีกด้วย
"ทำให้ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการค้าชายแดนจำนวนมากที่ไปหาซื้อรถบรรทุกห้องเย็นหรือรถลากเอาไว้รายละหลายคัน เพราะต้องการขนส่งสินค้าทั้งค้าขายไปกับเรือสินค้าสู่ท่าเรือกวนเหล่ยของจีนเองหรือรับจ้างขนส่งแบบลอจิสติกส์จากแหล่งรับตามที่ต่างๆ ในประเทศไทยไปยังท่าเรือแม่น้ำโขงที่ อ.เชียงแสน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูแล้ง ทำให้เรือสินค้าแล่นไปมาไม่ได้สะดวก จึงต้องรอให้เข้าสู่ฤดูน้ำหลากก่อนจึงจะทำให้การขนส่งสินค้าคึกคักขึ้นรับกับอัตราภาษีใหม่ของจีน
อนึ่ง ศูนย์ควบคุมแม่น้ำล้านช้าง-แม่โขง เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ได้แจ้งถึงผู้ประกอบการเดินเรือครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า เขื่อนจิ่งหงจะมีน้ำไหลเข้าเขื่อนในอัตรา 431 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระบายน้ำออกจากเขื่อนในอัตรา 845 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 597 เมตร และระดับน้ำใต้เขื่อนอยู่ที่ 536.2 เมตร