นครพนม - หญิงชรา อ.ธาตุพนมช็อก! ร้องสื่อนครพนมช่วยหลังเจอหมายเรียกคดีฉ้อโกงจาก สภ.สำโรงเหนือ เจ้าตัวยืนยันไม่เคยออกไปทำธุรกรรมใด ทั้งไม่เคยเดินทางไกล ขณะที่ฐานะทางบ้านสุดยากจนมีเงินติดบัญชีแค่ 251 บาท สภาพบ้านใกล้พัง ไร้ที่ทำกินต้องเช่าที่ทำนา
วันนี้ (9 ก.พ. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องทุกข์จากนายยุทธการ คำมุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 บ้านศาลา ต.นาหนาด อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ว่าลูกบ้านของตนเป็นหญิงชราถูกหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ส่งมาถึงบ้านในข้อกล่าวหาฉ้อโกงทรัพย์ ร่วมกับลูกชายอีกหนึ่งคน โดยกำหนดให้ไปพบในวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลา 09.00 น. ทั้งที่ลูกบ้านนั้นไม่เคยไปทำธุรกรรมใด แต่จู่ๆ มาถูกหมายเรียกถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ
จากการลงพื้นที่บ้านของหญิงชรา พบนายถนัด อินทร์ภูวา อายุ 72 ปี เจ้าของบ้าน พบสภาพบ้านเก่า อายุกว่า 40 ปี ด้านล่างเป็นปูน ส่วนด้านบนเป็นไม้ถูกปลวกแทะจนผุพัง โดยนายถนัดเปิดเผยว่าผู้ที่ถูกหมายเรียกเป็นภรรยาของตนชื่อ นางวาสนา อินทร์ภูวา อายุ 68 ปี และลูกชายชื่อ นายสุริยา อินทร์ภูวา อายุ 41 ปี ปัจจุบันย้ายบ้านไปอยู่เลขที่ 16/49 หมู่ 2 ต.กระทู้ อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต ทั้งสองโดนกล่าวหาว่าฉ้อโกง ผู้เสียหายชื่อนายชัยยุทธ์ ริมปิรังษี ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากไหน
นางวาสนาโชว์หมายเรียกผู้ต้องหาครั้งที่ 1 จาก สภ.สำโรงเหนือ พร้อมกับกล่าวว่าได้รับหมายเรียกวันที่ 3 ก.พ. 61 เวลาประมาณ 15.00 น. ในหมายระบุวันที่และเวลาให้ไปพบ ลงชื่อ ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ดวงจินดา รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เป็นผู้ออกหมาย หลังได้อ่านถึงกับตกใจเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยออกจากบ้านไปไหนไกล ที่ไกลสุดแค่จังหวัดมุกดาหาร 50 กิโลเมตร จึงโทรศัพท์สอบถามลูกชายที่ทำงานอยู่ภูเก็ต และให้เบอร์โทร.ของผู้กองธนาวุฒิเพื่อถามถึงคดี แต่ก็ไม่ได้รับความกระจ่าง ตนจึงไปปรึกษากับผู้ใหญ่บ้านหาทางช่วยเหลือ
ด้านนายยุทธการ คำมุข ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 กล่าวว่า ครอบครัวของนางวาสนามีฐานะยากจน ที่ดินสักแปลงก็ไม่มี ต้องเช่าที่นาคนอื่นปลูกข้าวกิน และยังต้องมีภาระรับผิดชอบเลี้ยงหลานกำพร้า 3 คน ลูกสาวที่พิการอีก 1 คน มีเงินติดอยู่ในบัญชีธนาคารเพียง 251 บาทเท่านั้น เมื่อทราบว่าถูกกล่าวหาร่วมกับลูกชายฉ้อโกงคนอื่นก็ตกใจ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าสองแม่ลูกจะไปโกงคนอื่นได้แน่นอน
ต่อมาได้โทรศัพท์ไปหา ร.ต.อ.ธนาวุฒิ ดวงจินดา พนักงานสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ ได้รับคำตอบว่าเหตุเกิดในท้องที่ จ.นครพนม แต่ผู้เสียหายอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการมาแจ้งความกล่าวโทษบุคคลทั้งสองร่วมกันฉ้อโกง ตนก็ปฏิบัติตามหน้าที่ ส่วนรายละเอียดของคดีนั้นเป็นความลับของทางราชการ
จากนั้นนางวาสนาและนายถนัดสามีเดินทางไปยัง สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมกับหมายเรียกดังกล่าวเพื่อไปพบ ร.ต.อ.พิชิตชัย รูปคม รองสารวัตรสอบสวนฯ ซึ่งได้รับคำแนะนำให้ไปพบตามหมายเรียกเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ นางวาสนาจึงปรึกษากับนายยุทธการว่าจะทำอย่างไร ตอนนี้ที่บ้านไม่มีเงินเลย คงจะขอเรี่ยไรเงินจากเพื่อนบ้านเป็นค่าโดยสาร ข่าวคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไป