MGR Online - ตำรวจกองปราบรวบแก๊ง 18 มงกุฎ อ้างตัวเป็นเซลส์ขายน้ำมันตระเวนหลอกเอาเงินผู้ประกอบการโรงสีข้าวหลงกลเชื่อ มีน้ำมันราคาถูกมาขายก่อนรับเงินมัดจะแล้วหลบหนี เบื้องตร.แจ้งข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์” นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันนี้ (11 เม.ย. ) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรพัฒน์ ธารีไทย รอง ผกก.3 บก.ป. และ พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตรโสภากุล สว.กก.3 บก.ป. ร.ต.อ.กิตติภพ ทองเพชร รอง สว.กก.3 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายสุเมธ ศรีบำรุง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ม.5 ต.พะยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.62/2560 ในข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์” ได้ที่บริเวณริมถนนรัชดาภิเษก หน้าบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นายสุเมธ พร้อมกับ นายธนธรณ์ หรือ ก้อง นวลเพชร อายุ 34 ปี ชาว จ.สงขลา ได้ร่วมกันแอบอ้างตัวว่าเป็นเซลส์แมนขายน้ำมันปิโตรเลียม ออกตระเวนก่อเหตุหลอกลวงผู้ประกอบการโรงสีข้าวและอุตสาหกรรมขนาดย่อมในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยอ้างว่าสามารถจัดหาน้ำมันมาขายให้กับผู้เสียหายในราคาถูกกว่าท้องตลาดได้ แต่ผู้เสียหายจะต้องโอนเงินค่ามัดจำให้กับผู้ต้องหาก่อนส่วนหนึ่ง แต่เมื่อได้รับเงินค่ามัดจำแล้วผู้ต้องหาก็จะหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายสุเมธ หนึ่งในผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานอยู่ในพื้นที่ กทม. จึงได้นำกำลังติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว เหลือเพียง นายธนธรณ์ ผู้ร่วมขบวนการอีก 1 ราย ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี
สอบสวน นายสุเมธ ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยก่อนหน้านี้ ตนทำงานเป็นการ์ดดูแลรักษาความปลอดภัยสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา และได้รู้จักกับนายธนธรณ์ แขกประจำสถานบันเทิงดังกล่าว ก่อนจะถูก นายธนธรณ์ ว่าจ้างให้เปิดบัญชีรับเงินโอนเงินเข้าออก แต่ไม่ทราบว่าเงินที่โอนเข้าออกนั้นเป็นเงินอะไร รู้เพียงว่าพอมีคนโอนเงินเข้ามานายธนธรณ์ ก็จะโทรมาบอกให้ตนไปกดเงินแล้วโอนต่อไปให้เขา โดยทำมาแล้ว 10 กว่าครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งจะได้รับเงินส่วนแบ่งในอัตราร้อยละ 20 ของจำนวนเงินที่เงินเข้ามาในบัญชี
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติของนายสุเมธ ผู้ต้องหารายนี้ พบว่า มีหมายจับติดตัวในคดีลักษณะดังกล่าวตามพื้นที่ต่างจังหวัดอีก 4 หมายจับ ขณะที่นายธนธรณ์ ตรวจสอบประวัติพบว่ามีหมายจับติดตัวในคดีลักษณะดังกล่าวอีกกว่า 10 คดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ดำเนินคดีต่อไป