เชียงใหม่ - เถ้าแก่เนี้ยขายไก่สดเจ้าใหญ่ของเชียงใหม่ควงทนายขึ้นโรงพักแจ้งความดำเนินคดีนายทุนอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ฐานฉ้อโกงมูลค่านับร้อยล้าน หลังให้ช่วยไถ่ถอนตึกแถว แลกโอนกรรมสิทธิ์ให้ก่อนลงทุนปรับปรุงขายต่อ แต่พอขายได้กำไรกลับไม่ยอมแบ่ง
วันนี้ (24 พ.ค.) นางสาวชนัญชิต อัสราอังกุร อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/35 ซอย 3 ถนนเมืองสมุทร ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ เจ้าของร้านเจ้แววไก่สด ในตลาดเมืองใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมนายอิศรา วิชา ทนายความ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อสารวัตรสอบสวน สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่ ว่า ถูกอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ฉ้อโกง
ผู้เสียหายอ้างว่า ตนได้นำทรัพย์สินเป็นอาคารพาณิชย์ 11 ห้อง ในตลาดเมืองใหม่ ไปขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน เป็นเงินประมาณ 40 ล้านบาท แต่ระยะหลังมีปัญหาทางการเงิน กระทั่งต้นปี 2559 ได้มีนายหน้าแนะนำให้รู้จักกับนายทุนที่เป็นนายตำรวจนอกราชการคนดังกล่าว ว่ามีเงินจะช่วยเคลียร์ปัญหาที่ติดจำนองได้
ทั้งนี้ทางนายทุนอดีตนายตำรวจตกลงที่จะเข้ามาช่วยไถ่ถอนตึกแถวทั้ง 11 ห้องออกมาจากธนาคาร แต่มีข้อแม้ว่าหากไถ่ถอนออกมาแล้วต้องโอนกรรมสิทธิ์เป็นชื่อของอดีตนายตำรวจคนดังกล่าว ตนหลงเชื่อจึงเซ็นยอมโอนให้หมด โดยมีข้อแม้ว่าหากนำไปปรับปรุงขายได้จะต้องนำกำไรมาแบ่งกัน เพราะตึกแถวทั้ง 11 ห้องมีราคาถูกกว่าราคาประเมิน รวมทั้งราคาตลาดสูงนับ 100 ล้านบาท
โดยมีข้อตกลงว่าให้โอนอาคารพาณิชย์เป็นชื่อของนายทุน และจะลงทุนร่วมกันในการไถ่ถอน เพื่อนำอาคารพาณิชย์ไปขายนำกำไรมาแบ่งกัน ซึ่งปัจจุบันอาคารพาณิชย์ดังกล่าวมีมูลค่านับ 100 ล้าน
นอกจากนี้ ตนยังนำอาคารพาณิชย์ที่มีอีก 3 ห้องเป็นหลักทรัพย์กู้เงินจากสถาบันการเงินอีก 5 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาลงทุนให้นายทุนคนเดิมไถ่ถอนมาอีก 1 ห้องเพื่อบรรเทาค่าดอกเบี้ยเดือนละ 1 แสนบาท ซึ่งทางนายทุนก็จะลงทุนขายไก่สดด้วย
ต่อมานายทุนอดีตนายตำรวจคนดังกล่าวก็ได้นำตึกแถวมาปรับปรุงและขายไปแล้ว 8 ห้อง ในราคาห้องละ 11 ล้านบาท แต่กลับไม่ยอมแบ่งเงินให้ตนตามที่ตกลงกันไว้ ขณะที่อาคารอีก 1 ห้องที่ไปไถ่ถอนเพิ่มเติม หลังนายทุนได้กรรมสิทธิ์แล้วระยะหนึ่ง กลับไล่ให้ตนและคนงานออก
นางสาวชนัญชิตกล่าวอีกว่า หลังจากนั้นได้ไปปรึกษากับทนายความ และเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีต่อนายทุนอดีตนายตำรวจคนดังกล่าว ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์
เบื้องต้น พ.ต.ต.ภัคพล อินดี สารวัตร (สอบสวน) ได้รับแจ้งพร้อมกับลงบันทึกประจำวันเอาไว้ในเบื้องต้น และจะได้สอบสวนหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องว่าจะสามารถรับเป็นคดีฉ้อโกงทรัพย์ได้หรือไม่ต่อไป เพื่อดำเนินการต่อไป