ศรีสะเกษ - พ่อแม่เป็นห่วง “วิเชียร ชิณวงษ์” ฮีโร่ทุ่งใหญ่นเรศวร นำทีมลุย “จับนายใหญ่” อิตาเลียนไทยคนรวยมีอิทธิพลล่าสัตว์ป่า ขณะชาวบ้านศรีสะเกษแห่ให้กำลังใจ เผย “วิเชียร” ยึดมั่นอุดมการณ์รักษาป่าไม้และสัตว์ป่าไว้ตราบจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา ไม่ยอมในสิ่งผิดเด็ดขาด และมีน้ำใจ เงินเดือนไม่ค่อยพอใช้ต้องขอเงินพ่อแม่เสมอเพื่อนำไปใช้จ่ายในการปฏิบัติงานและดูแลลูกน้อง
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ได้นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวก รวม 4 คน ลักลอบล่าสัตว์ป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จ.กาญจนบุรี โดยเจ้าหน้าที่พบซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง ซากเสือดำ และพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมาก กลายเป็นข่าวโด่งดังและกระแสสังคมเรียกร้องให้ลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาอยู่ในขณะนี้นั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 27 หมู่ 10 บ้านลิ้นฟ้า ต.ลิ้นฟ้า อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ นายกรณ์ ชิณวงษ์ อายุ 61 ปี และนางวงเดือน ชิณวงษ์ อายุ 56 ปี พ่อและแม่ของ นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก ซึ่งเป็นผู้นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 4 คน พบว่าเป็นบ้าน 2 ชั้น หลังคามุงสังกะสี มีโรงตากหอมแดง และคอกหมูที่เลี้ยงหมูอยู่ประมาณ 20 ตัว
ขณะที่ชาวบ้านลิ้นฟ้ากลุ่มหนึ่งส่วนมากเป็นญาติพี่น้องของนายวิเชียร ต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยชาวบ้านทุกคนพากันชื่นชมที่นายวิเชียร หรือเชียร ลูกหลานของชาวบ้านลิ้นฟ้า ได้ปฏิบัติหน้าที่ข้าราชการรักษาป่าอย่างดีเยี่ยม ซื่อสัตย์สุจริต ไม่หวั่นเกรงอิทธิพลใดๆ และสามารถจับกุมคนที่กระทำผิดกฎหมายได้พร้อมหลักฐานทุกอย่างประกอบการดำเนินคดีครบถ้วน
จากนั้นกลุ่มชาวบ้านได้พากันไปให้กำลังใจแก่พ่อและแม่ของนายวิเชียร โดยตะโกนลั่นว่า “วิเชียร สู้ สู้” เพื่อเป็นการสนับสนุนการทำงานของนายวิเชียร ซึ่งสร้างความขวัญกำลังใจให้แก่พ่อและแม่ของนายวิเชียรเป็นอย่างมาก
นายกรณ์ ชิณวงษ์ พ่อของนายวิเชียร กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่นายวิเชียร หรือเชียร ลูกชายคนโตปฏิบัติหน้าที่รักษาป่าและสัตว์ป่าอย่างเต็มที่ตามอุดมการณ์ที่เคยได้พูดกับตนเอาไว้เสมอว่า จะรักษาป่าไม้และสัตว์ป่าเอาไว้ตราบจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่อย่างไรก็ตามด้วยความเป็นพ่อรู้สึกห่วงใยวิเชียรเป็นอย่างมาก เพราะกลุ่มบุคคลที่ได้รับผลกระทบเป็นคนมีเงินมีอิทธิพล ตนพยายามโทรศัพท์ติดต่อกับวิเชียรแต่ไม่สามารถติดต่อได้เนื่องจากชีวิตส่วนใหญ่ของวิเชียรจะอยู่ในป่าลึกในเขตพื้นที่รับผิดชอบเพื่อกวาดล้างจับกุมผู้ที่ลักลอบกระทำผิดกฎหมาย
ตนขอฝากไปถึงวิเชียร ลูกชายคนโตว่า ขอให้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ไม่ต้องหวั่นเกรงอิทธิพลใดๆ เพื่อเป็นการทำความดีถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ และ รัชกาลที่ ๑๐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการปฏิบัติตามพระราชเสาวนีย์ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงให้มีการปลูกป่าและรักษาป่าอย่างเต็มที่เพื่ออนาคตของลูกหลานไทยให้มีป่าและสัตว์ป่าเอาไว้ในป่าของประเทศไทย
นางวงเดือน ชิณวงษ์ แม่ของนายวิเชียร กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ด้วยความเป็นแม่ ตนมีความเป็นห่วงใยวิเชียรลูกชายเป็นอย่างมาก เนื่องจากวิเชียรเป็นคนที่ทำงานตรงไปตรงมา หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องวิเชียรจะไม่ยอมให้มีการทำผิดอย่างเด็ดขาด วิเชียรไม่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านนานหลายเดือนแล้ว หากมีเวลาว่างจึงจะกลับมาเยี่ยมตนและครอบครัว แต่เนื่องจากส่วนมากแล้วจะอยู่ในป่าออกตรวจตราเขตพื้นที่รับผิดชอบกับเจ้าหน้าที่จึงไม่ค่อยมีเวลาว่าง
หลังจากที่มีข่าวออกมาตนพยายามติดต่อกับวิเชียรแล้วหลายครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อได้ ขอฝากถึงลูกชายว่าให้ทำงานอย่างเต็มที่เหมือนเดิมและให้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพราะตนพร้อมด้วยญาติพี่น้องและชาวไทยทั่วประเทศที่รักความถูกต้องคอยเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอ แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้มีความห่วงใยลูกชายเป็นอย่างมาก ขอให้ระมัดระวังตัวและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
ทางด้าน นายบุญทัน แก้วพวง อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/1 หมู่ 10 บ้านลิ้นฟ้า ต.ลิ้นฟ้า อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ พี่ชายของแม่นายวิเชียร กล่าวว่า ตั้งแต่สมัยเป็นเด็กๆ วิเชียรเป็นคนที่มีความประพฤติเรียบร้อย รักญาติพี่น้องเพื่อนฝูง หากมีเงินจะชอบซื้อของเลี้ยงเพื่อนฝูงญาติพี่น้อง แม้ว่าตนจะย้ายบ้านออกมาอยู่ห่างไกล แต่เมื่อวิเชียรซื้ออะไรมาก็มักนำเอามาฝากให้ตนเสมอ สมัยเด็กวิเชียรเป็นคนตั้งใจเรียนหนังสือมาก ไม่ค่อยสนใจไปทำอะไรที่ไม่มีประโยชน์
การที่วิเชียรเป็นคนทำงานอย่างตรงไปตรงมาและซื่อสัตย์สุจริตทำให้เงินเดือนไม่ค่อยพอใช้ มักต้องขอเงินจากนางวงเดือน หรือนางปรือ แม่ของวิเชียร เป็นประจำ โดยวิเชียรนำเอาเงินไปใช้ในการทำงานและดูแลลูกน้องให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เมื่อนางวงเดือนขายหมูที่เลี้ยงเอาไว้ได้เงินก็จะส่งเงินไปให้ลูกชายครั้งละ10,000-20,000 บาทเป็นประจำ โดยนางวงเดือนจะสอนลูกเสมอว่า ให้เป็นคนดีอย่ากินบ้านกินเมือง หากไม่มีเงินใช้ให้บอกพ่อแม่ ซึ่งวิเชียรทำตามที่พ่อแม่อบรมสั่งสอนอย่างเคร่งครัดจนกระทั่งมาถึงทุกวันนี้
“ขอให้กำลังใจวิเชียร และขอให้ผลของการกระทำดีส่งผลให้ได้เป็นอธิบดีในอนาคต เพื่อจะได้รักษาป่าและสัตว์ป่าไว้ให้ได้มากขึ้นกว่าเดิมต่อไป” นายบุญทัน ลุงของวิเชียร ฮีโร่แห่งป่าทุ่งใหญ่นเรศวร กล่าวในตอนท้าย