รมว.วิทย์ฯ เปิดงาน EECi แฟร์ ที่ อ.ศรีราชา ชูธงใช้เทคโนโลยี-นวัตกรรมและคน

ศูนย์ข่าวศรีราชา - รมว.วิทย์ฯ เปิดงาน EECi แฟร์ ที่ อ.ศรีราชา ชูธงใช้เทคโนโลยี-นวัตกรรม และคน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม และพัฒนาพื้นที่ ศก.พิเศษตะวันออกอย่างยั่งยืน

วันนี้ (10 ม.ค.) ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” หรือ “EECi แฟร์” ณ อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือจิสด้า ร่วมกับมหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เทศบาลนครแหลมฉบัง และภาคเอกชนในพื้นที่ร่วมจัดงานในครั้งนี้ขึ้น และมีเอกอัครราชทูต ประเทศญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย นักธุรกิจ นักลงทุนชาวไทย และชาวญี่ปุ่นร่วมในพิธี

สำหรับงาน EECi แฟร์ จัดขึ้นตามนโยบายประชารัฐของรัฐบาล ในการมุ่งพัฒนาผู้ประกอบการนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ชุมชน โอทอปรุ่นใหม่ โดยการบูรณาการร่วมของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้าร่วมสนับสนุนการดำเนินงานในมิติต่างๆ เช่น การสนับสนุนด้านการพัฒนามาตรฐาน การสนับสนุนทางการตลาด พร้อมทั้งสร้างความตระหนักผ่านกิจกรรมการเผยแพร่เทคโนโลยีในรูปแบบต่างๆ โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 ม.ค.2561

ดร.สุวิทย์ กล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เล็งเห็นว่าการส่งเสริมให้เกิดการวิจัยและพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก จะเป็นกลไกสำคัญประการหนึ่งที่จะส่งเสริมให้ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของไทย เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และกำลังคนของประเทศและภูมิภาค ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการพัฒนาทุกมิติของประเทศได้อย่างแท้จริง ที่สำคัญ เพื่อส่งเสริม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายให้เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่ออนาคต โดยมุ่งเน้นการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการนำพาประเทศก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0

“กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตระหนักอยู่เสมอว่า อุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ หรือ SKP เป็นพื้นที่นวัตกรรมใหม่ในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่มีระบบนิเวศนวัตกรรมที่เหมาะสมที่จะช่วยส่งเสริมให้เกิดการทำวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา รวมถึงชุมชนในพื้นที่ เพื่อช่วยยกระดับและพัฒนาอุตสาหกรรมการบินและอวกาศของประเทศ เป็นการนำพาประเทศไปสู่ประตูแห่งนวัตกรรม ควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต อันเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคมไทยสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน"

ดร.สุวิทย์ ยังกล่าวต่อไปว่า ในอนาคตรัฐบาลมีโครงการพัฒนา และสร้างดาวเทียมดวงใหม่ของประเทศไทยขึ้นมาเพื่อใช้ในการวิจัย สำรวจในสิ่งต่างๆ เช่น ด้านการเกษตร การวางผังเมือง และการจัดสรรพทรัพยากร โดยสามารถนำข้อมูลต่างๆจากดาวเทียมมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในอนาคต