ฉะเชิงเทรา- รถตู้ขนแรงงานต่างด้าวจากเมืองชลบุรี ไปต่ออายุบัตรผ่านแดนที่ด่านชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซิ่งแซงไม่พ้นพุ่งชนเสยท้ายรถบรรทุกน้ำมัน บริเวณทาง 5 แยกธงชัย หรือแยกหัวสำโรง ทำผู้โดยสารดับคาที่ 1 ราย บาดเจ็บอีก 9 ราย เบื้องต้น ตั้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
วันนี้ (9 ม.ค.) ร.ต.อ.สมัย สุดาชาติ รองสารวัตรสอบสวนเวร สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุรถตู้บรรทุกผู้โดยสารแบบไม่ประจำทาง พุ่งชนท้ายรถบรรทุกน้ำมันจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย เหตุเกิดบริเวณทาง 5 แยกธงชัย หรือแยกหัวสำโรง ก่อนถึงสี่แยกทางเข้านิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ ซิตี้ ประมาณ 1 กม. หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกน้ำมันสีขาว ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 72-7225 ชลบุรี จอดอยู่บนไหล่ทาง โดยมีรถตู้โดยสารสีขาว ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 30-0327 สระแก้ว จอดอยู่ในลักษณะหัวเก๋งด้านซ้ายพุ่งชนหัวมุมของถังน้ำมัน และตัวรถ ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งอยู่เบาะหน้าด้านซ้ายเสียชีวิตทันที ทราบชื่อคือ นายเฉลิมศักดิ์ สภาภักดิ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67/260 ม.5 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ส่วนคนขับรถตู้ คือ นายพงศธร เอี่ยมเย็น อายุ 28 ปี ชาว จ.ชัยนาท ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บ และให้การว่า ได้ขับรถตู้ขนแรงงานต่างด้าว 10 คน จากเมืองชลบุรี เดินทางไปต่ออายุบัตรผ่านแดนที่ด่านชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว จนเกิดอุบัติเหตุทำให้ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ 9 คน อาการสาหัส 2 คน เป็นเด็กชายวัย 4 ปี และหญิงชรา รวมทั้งมีผู้เสียชีวิต 1 คน ทั้งหมดถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลพุทธโสธร
จากการสอบสวน นายสมบัติ บุญดีรัตน์ อายุ 49 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมัน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถบรรทุกน้ำมันมาจาก อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อไปส่งปั๊มน้ำมันใน จ.นครพนม โดยบรรทุกน้ำมันดีเซลมา จำนวน 6,000 ลิตร และแก๊สโซฮอล์ 95 อีก 14,000 ลิตร เมื่อมาถึงบริเวณทางแยกหัวสำโรง ได้หยุรถเพื่อรอสัญญาณไฟเขียว และขณะนั้นมีรถจอดติดไฟแดง 3 คัน และมีรถตำรวจทางหลวง จอดติดสัญญาณไฟจราจรด้วย 1 คัน
ขณะนั้นได้มีรถตู้ที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง เนื่องจากเป็นช่วงสัญญาณไฟเขียว พุ่งเข้าชนที่ด้านท้ายรถของตนเองจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว
ร.ต.อ.สมัย กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น คาดว่า สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้น่าจะเกิดจากคนขับรถตู้ที่ขับมาด้วยความเร็ว ก่อนจะพยายามขับผ่านสัญญาณไฟจราจรให้ทัน จึงขับรถแซงคันหน้า แต่แซงไม่พ้นจึงพุ่งชนท้ายของรถบรรทุกน้ำมัน อย่างไรก็ตาม จะเร่งสืบสวนเพื่อหาสาหตุที่แท้จริงก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพนมสารคาม และผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามช่วยเหลือคนเจ็บ และกู้ซากรถออกจากจุดเกิดเหตุ ได้มีน้ำมันไหลลงมานองเต็มพื้นถนน จนต้องมีการเตรียมถังดับเพลิงเคมี และรถน้ำดับเพลิง จำนวน 2 คัน เพื่อระงับเหตุ เนื่องจากรถตู้มีการติดตั้งแก๊สซีเอ็นจี หรือ NGV เอาไว้ด้วย