MGR Online - กรมอุทยานฯยื่นมือช่วยเหลือ “ลิงแสม” กินจุ - อ้วนจัด จนลุกไม่ขึ้นแล้ว พบน้ำหนักเกินกว่าปกติเกือบ 2 เท่าตัว อธิบดีกรมอุทยานฯวอนประชาชนให้อาหารลิงอย่าใช้อาหารคนเด็ดขาดเพราะจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้ ล่าสุด รอลุ้นเนื้อหน้าท้องขนาดใหญ่ที่ทำให้เกิดอุปสรรคดำเนินชีวิตเป็นเนื้องอกธรรมดา หรือ มะเร็งร้าย
จากกรณีมีผู้โพสต์ภาพลิงแสมมีน้ำหนักเกิน ส่อว่าจะพิการ หรือมีปัญหาเรื่องสุขภาพจนไม่สามารถใช้ชีวิตเยี่ยงประชากรลิงทั่วไป บริเวณจุดชมวิวถนนเลียบวงแหวนด้านใต้ เขตบางขุนเทียน กทม. ข่าวดังกล่าวอยู่ในความสนใจของ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงมอบหมายกลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า สอป. ประสานงานกับเขตห้ามล่าสัตว์ป่าพันท้ายนรสิงห์ ไปตรวจสอบข้อมูลและให้ความช่วยเหลือเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 60 ระหว่างเวลา 11.00 - 13.00 น. แล้ว ปรากฏว่า
1) ลิงดังกล่าวเป็นลิงแสม เพศผู้ อยู่ที่สวนสาธารณะคุณกะลา ใกล้ตลาดน้ำคุณกะลา เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ มีรูปร่างอ้วนตามภาพที่ปรากฏทางสื่อสังคม น้ำหนักประมาณ 15 กก. บริเวณท้องมีลักษณะนิ่ม น่าจะเนื่องจากแต่ละวันมีผู้ให้อาหารจำนวนมาก (โดยทั่วไปน้ำหนักลิงแสมอยู่ที่ประมาณ 8 - 10 กก.)
2) สัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์อนุรักษ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าพันท้ายนรสิงห์ ได้ทำการวางยาสลบและเคลื่อนย้ายลิงดังกล่าว นำไปตรวจสุขภาพอย่างละเอียดและฟื้นฟูสุขภาพที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าภาคกลาง จ.นครนายก ต่อไป
มีรายงานความคืบหน้าวันที่ 28 เมษายน 2560 ว่า ในส่วนของการรักษาฟื้นฟูลิงอ้วนตัวดังกล่าวทาง สพ.ญ.สุภกานต์ แก้วโชติ และ สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ประจำฝ่ายสุขภาพสัตว์ป่า พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้นำลิงอ้วน เข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมด้วยการเอกซเรย์ ช่องอก และช่องท้อง พบว่า มีสภาวะปอดอักเสบ และในส่วนของช่องท้องมีความผิดปกติ พบว่า มีขอบเขตคล้ายก้อนเนื้องอกไขมัน หรือ อาจจะเป็นก้อนมะเร็งไขมัน ซึ่งจะต้องทำการตรวจเพิ่มเติม จึงทำการเจาะดูดช่องท้องด้วยเข็ม นำไปตรวจเซลล์วิทยาโดยจะต้องรอผลประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อวินิจฉัยชี้ชัดว่า เซลล์ที่ได้จากการเจาะดูดนั้นเป็นเซลล์ชนิดใด ทั้งนี้ ได้ทำการเจาะตรวจเลือดเพื่อตรวจดูค่าโลหิตวิทยา (CBC : เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว) ชีวเคมีวิทยา (Blood chem : ค่าตับ ค่าไต ค่าคอเรสตอรอลในกระแสเลือด) ส่งตรวจ ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน และส่งตรวจโรคติดต่อ (เฮอร์ปี่ไวรัส, วัณโรค, ไวรัสตับอักเสบ, พยาธิในเลือด) ณ สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ กรมปศุสัตว์ ในส่วนของการรักษาอาการปอดอักเสบนั้น ทางสัตวแพทย์ฝ่ายสุขภาพสัตว์ป่า ได้ทำการให้ยาปฏิชีวนะ ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน และจะทำการเอกซเรย์ปอดซ้ำอีกครั้งในสัปดาห์หน้าเพื่อประเมินผลการรักษาต่อไป
สำหรับโรคอ้วนที่เกิดกับลิงแสมตัวนี้กระทั่งเกิดเป็นประเด็นข่าวขึ้นมานั้น นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับรายงานจากทีมสัตวแพทย์ ว่า เกิดจากการกินอาหารที่ผิดไปจากธรรมชาติสัตว์ เข้าใจว่า จะเป็นความหวังดีของนักท่องเที่ยว หรือประชาชนในละแวกนั้นเนื่องจากพบว่ามีเศษข้าว เศษอาหารต่างๆ รวมทั้งขนมถุงประเภทขบเคี้ยวไม่เว้นแม้แต่ขนมหวาน และมีปริมาณมากทำให้ลิงแสมตัวนี้เป็นโรคอ้วนอย่างรุนแรงซึ่งตามปกติลิงแสมอายุ 8 - 10 ปี จะมีน้ำหนักประมาณ 10 กก. แต่ล่าสุด หลังจับมาได้แล้วเมื่อไปชั่งน้ำหนักก็พบว่ามากถึง 27 กก. ซึ่งเกินไปมากทางกรมอุทยานฯจึงอยากฝากขอความร่วมมือจากประชาชนหากจะให้อาหารลิงควรเป็นผัก ผลไม้ กล้วย หรือถ้าอยากให้ได้รับโปรตีนบ้างแค่เพียงไข่ต้มก็พอ สังเกตว่า ลิงฝูงดังกล่าวมีรูปร่างอ้วนท้วนแทบทุกตัวอย่างไรก็ตามสำหรับเนื้องอกที่พบในตัวลิงแสมดังกล่าวน่าจะทราบผลในอีกวันสองวันนี้ว่าเป็นเนื้องอกธรรมดาหรือมะเร็ง