นครพนม- พระสงฆ์วัดป่าคำสว่างเนรมิตร่วมกับญาติโยมมัดรวงข้าวทำปราสาทข้าวเปลือกสูง 9 เมตร เตรียมจัดงานสู่ขวัญข้าวรำลึกพระคุณพระแม่โพสพเพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่ เผยใช้รวงข้าวเหนียวมากกว่า 1 ล้านรวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าคำสว่าง หมู่ 5 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม พระสงฆ์และชาวบ้าน พร้อมจิตอาสากว่า 20 คน ช่วยกันนำรวงข้าวที่คัดแล้วมามัดรวมกันเป็นกำ ก่อสร้างปราสาทข้าวเปลือกความสูง 9 เมตร สืบสานบุญเดือนยี่ ตามประเพณีโบราณ “ฮีตสิบสองครองสิบสี่” และอนุรักษ์ไม่ให้สูญหาย เพื่อเตรียมจัดงานบุญกองข้าวหรืองานบายศรีสู่ขวัญข้าว เพื่อรำลึกถึงบุญคุณพระแม่โพสพ วันขึ้นปีใหม่ 2561 พรุ่งนี้ (1 ม.ค.)
พระภูวดล สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าคำสว่าง เล่าว่า สมัยก่อนชาวบ้านในชนบทโดยเฉพาะชาวภาคอีสานจะมีงานบุญประเพณีบุญกองข้าว บุญคูณลาน หรือบุญประทายข้าวเปลือก แต่ปัจจุบันประเพณีดังกล่าวนับวันจะยิ่งสูญหายไปตามกาลเวลา เพราะตั้งแต่มีรถเกี่ยวข้าวที่ทันสมัยพร้อมสีข้าวไปในตัว ชาวนาหรือเจ้าของแปลงนาไม่เคยมีการเลี้ยงพระแม่โพสพ เพื่อรำลึกถึงบุญคุณข้าว ตามประเพณีความเชื่อที่มีมาแต่โบราณกาล
วัดจึงจัดงานดังกล่าวขึ้น เพื่อให้ลูกหลานที่เดินทางกลับสู่ภูมิลำเนา พร้อมชาวบ้านได้เกิดมีความรักและความสามัคคี ที่สำคัญจะได้เข้าวัดทำบุญในวันขึ้นปีใหม่เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตอีกด้วย
เจ้าอาวาสวัดป่าคำสว่าง บอกอีกว่า สำรับปราสาทรวงข้าวหลังนี้ มีรูปทรงจำลองมาจากปราสาทผึ้งใน จ.สกลนคร มีความสูง 9 เมตร กว้าง 7 เมตร ยาว 9 เมตร ใช้รวงข้าวเหนียว กข.6 ที่คัดแยกใบออกแล้วจำนวน 1 ล้านรวง หรือจากที่นาของชาวบ้านที่ร่วมใจบริจาคประมาณ 8 ไร่ คิดเป็นน้ำหนักข้าวเปลือกประมาณ 3 ตัน มาถักร้อยด้วยตอกด้วยโครงสร้างไม้ยูคาลิปตัส และไม้ไผ่ ผสมผสานกันเป็นงานศิลปะข้าวเปลือก เริ่มลงมือสร้างปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เพิ่งจะแล้วเสร็จในวันที่ 29 ธ.ค. ใช้เวลาสร้างประมาณ 2 เดือน
ทั้งนี้ เตรียมจัดงานบุญคูณลานข้าว ในวันพรุ่งนี้ (1 ม.ค.) เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญวัดหลังใหม่ โดยในเวลา 18.00 น.จะมีพิธีสูขวัญบายศรีข้าว ผูกแขนข้าว และจะมีพิธีสวดพระพุทธมนต์ข้าว จากนั้นก็จะแจกจ่ายข้าวบางส่วนให้ชาวบ้านและผู้มาร่วมงานไว้เป็นสิริมงคล ส่วนข้าวที่เหลือก็จะนำไปขายในรูปข้าวเปลือกเพื่อนำเงินมาสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญต่อไป
นอกจากนี้ยังมีมหรสพวงดนตรีหมอลำคณะสาวน้อย เพชรบ้านแพง และการสอยดาวการกุศล ผู้สนใจจะร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา สอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-7954-2313
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับวัดแห่งนี้เคยสร้างความฮือฮามาแล้ว หลังจากที่พระสงฆ์ในวัดพากันทาสีเมรุสีฟ้าและสีฉูดฉาดหวานแหวว เชื่อว่าจะเป็นการแก้เคล็ดลดการตาย และก่อนเผาทางวัดยังจัดเปิดเพลงสตริงให้ด้วยเพื่อไม่ให้ผู้มาร่วมงานได้โศกเศร้าสลด