วันนี้ (4 ธ.ค.) เวลา 15.00 น.ที่อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง มหาเถรสมาคม ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร ครบ 50 วัน ถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ คณะสงฆ์หนกลาง ที่มาปฏิบัติธรรรมที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ 3-7 ธ.ค. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ส่วนหนึ่งเป็นพระวิปัสสนาจารย์ที่ได้รับทุนเล่าเรียนหลวงจาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และคณะสงฆ์ในเขตกรุงเทพมหานคร รวมกว่า 1,000 รูป เข้าร่วม
สำหรับการสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลครั้งนี้ เกิดจากมติมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ให้มีการจัดพิธีนี้ ทุกวัดพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อวัดคณะสงฆ์ เชิญชวนประชาชนให้สวดมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
สำหรับบรรยากาศโดยรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม คลาคล่ำไปด้วยเหล่าพวกนิกรจากทั่วทุกสารทิศ ที่เดินทางมาร่วมในพิธีอย่างเนืองแน่น ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้นำหนังสือบทสวดพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล จำนวน 2,000 เล่ม พร้อมภาพพระบรมฉายาลักษณ์อีก 2,000 แผ่น มาแจกจ่ายให้พสกนิกร
ขณะที่หน้าพระอุโบสถ มีการอัญเชิญภาพพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขนาดใหญ่มาประดิษฐานไว้ เพื่อให้ราษฎรที่มาร่วมในพิธี ได้ส่งจิตอธิษฐานถึงองค์พระผู้เสด็จสู่สรวงสรรคาลัย ร่วมกันทั้งมณฑลพิธีวัพระแก้ว
เวลา 16.00 น.สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ประธานสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถา ก่อนวางพานพุ่มเครื่องสักการะ และจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ต่อมานายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายก ในฐานประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ บริเวณหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จากนั้นจุดเครื่องบูชาทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ นำพระสวดพระพุทธมนต์ รวม 5 บท โดยมีบท อาทิตตะปะริยายะสุตตัง (50 วัน) เป็นบทสวดหลัก โดยใช้เวลาสวดพระพุทธมนต์ถวายป็นพระราชกุศล เป็นเวลา 45 นาที
จากนั้นสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ นำคณะสงฆ์ตลอดจนพสกนิกรที่อยู่ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และที่รวมตัวอยู่ในวัดทั่วประเทศ ร่วมกันเจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลโดยพร้อมเพียง
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายก กล่าวว่า หลังจากนี้การสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล จะมีขึ้นทุกวันที่ 5 ของเดือน ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และทุกวัดพร้อมกันทั่วประเทศ เว้นในเดือนธ.ค.จะสวดพร้อมกันในวันที่ 4 ธ.ค.
ขณะที่นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถระสมาคม กล่าวว่า นอกจากการสวดเจริญพุทธมนต์ในวัดพระแก้ว ยังมีการจัดสวดเจริญพระพุทธมนต์ที่ มหาเถรสมาคม ได้ร่วมกับรัฐบาลจัดขึ้นทุกวัดทั่วประเทศในทุกวันจันทร์และวันศุกร์ โดยการสวดในวันจันทร์ จากเดิมสวดเพื่อถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี ปรับเป็นการจัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศล ส่วนวันศุกร์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เหมือนเดิม นอกจากนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาได้จัดโครงการอุปสมบทหมู่ทั่วประเทศ วันที่ 20 ม.ค. 60 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในการบำเพ็ญพระราชกุศล สตมวาร (100 วัน)อีกด้วย
สำหรับการสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศลครั้งนี้ เกิดจากมติมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ให้มีการจัดพิธีนี้ ทุกวัดพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อวัดคณะสงฆ์ เชิญชวนประชาชนให้สวดมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
สำหรับบรรยากาศโดยรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม คลาคล่ำไปด้วยเหล่าพวกนิกรจากทั่วทุกสารทิศ ที่เดินทางมาร่วมในพิธีอย่างเนืองแน่น ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้นำหนังสือบทสวดพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล จำนวน 2,000 เล่ม พร้อมภาพพระบรมฉายาลักษณ์อีก 2,000 แผ่น มาแจกจ่ายให้พสกนิกร
ขณะที่หน้าพระอุโบสถ มีการอัญเชิญภาพพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขนาดใหญ่มาประดิษฐานไว้ เพื่อให้ราษฎรที่มาร่วมในพิธี ได้ส่งจิตอธิษฐานถึงองค์พระผู้เสด็จสู่สรวงสรรคาลัย ร่วมกันทั้งมณฑลพิธีวัพระแก้ว
เวลา 16.00 น.สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ประธานสงฆ์ กล่าวสัมโมทนียกถา ก่อนวางพานพุ่มเครื่องสักการะ และจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ต่อมานายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายก ในฐานประธานฝ่ายฆราวาส จุดธูปเทียนบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ บริเวณหน้าพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จากนั้นจุดเครื่องบูชาทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ นำพระสวดพระพุทธมนต์ รวม 5 บท โดยมีบท อาทิตตะปะริยายะสุตตัง (50 วัน) เป็นบทสวดหลัก โดยใช้เวลาสวดพระพุทธมนต์ถวายป็นพระราชกุศล เป็นเวลา 45 นาที
จากนั้นสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ นำคณะสงฆ์ตลอดจนพสกนิกรที่อยู่ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และที่รวมตัวอยู่ในวัดทั่วประเทศ ร่วมกันเจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลโดยพร้อมเพียง
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายก กล่าวว่า หลังจากนี้การสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล จะมีขึ้นทุกวันที่ 5 ของเดือน ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และทุกวัดพร้อมกันทั่วประเทศ เว้นในเดือนธ.ค.จะสวดพร้อมกันในวันที่ 4 ธ.ค.
ขณะที่นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถระสมาคม กล่าวว่า นอกจากการสวดเจริญพุทธมนต์ในวัดพระแก้ว ยังมีการจัดสวดเจริญพระพุทธมนต์ที่ มหาเถรสมาคม ได้ร่วมกับรัฐบาลจัดขึ้นทุกวัดทั่วประเทศในทุกวันจันทร์และวันศุกร์ โดยการสวดในวันจันทร์ จากเดิมสวดเพื่อถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี ปรับเป็นการจัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศล ส่วนวันศุกร์เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เหมือนเดิม นอกจากนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาได้จัดโครงการอุปสมบทหมู่ทั่วประเทศ วันที่ 20 ม.ค. 60 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในการบำเพ็ญพระราชกุศล สตมวาร (100 วัน)อีกด้วย