กาฬสินธุ์ - คณะครูร้องย้ายผู้อำนวยการเรียกเก็บเงินแลกค่าเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันต่อตำรวจ หวั่นไม่ได้รับความปลอดภัย หลังก่อนหน้านี้ ถูกข่มขู่ฆ่าเอาชีวิต ขณะที่ ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ออกหนังสือคำสั่งให้ ผอ.เข้ามาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเขต อย่างไม่มีกำหนด พร้อมตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และสรุปผลภายใน 15 วัน ยันให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย
จากกรณีคณะครูโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 6 คน นำเอกสารและคลิปวิดีโอ ซึ่งอ้างว่า เป็นหลักฐานในการเรียกเก็บเงินเพื่อแลกกับการเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ ของผู้อำนวยการโรงเรียน เข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ และศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อขอให้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนออกนอกพื้นที่ ดำเนินการตรวจสอบ และเอาผิดต่อผู้อำนวยการ เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้เสื่อมเสียจรรยาบรรณวิชาชีพครู
กระทั่งสำนักงานพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 หรือ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ออกคำสั่งให้ผู้อำนวยการโรงเรียน เข้ามาปฏิบัติราชการที่สำนักงานเขต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด คณะครูที่เข้าร้องเรียนได้เข้าลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย และขอให้ตำรวจช่วยดูแลคุ้มครองความปลอดภัย หลังจากออกมาเปิดโปงพฤติกรรมการเรียกเก็บเงินของผู้อำนวยการโรงเรียน เพราะก่อนหน้านี้ เคยถูกขู่ฆ่าเอาชีวิตมาแล้ว
นางวาสนา พงษ์รัชตะ ตัวแทนคณะครูที่เข้าร้องเรียน กล่าวว่า การที่คณะครูได้เข้าร้องเรียนครั้งนี้ เนื่องจากต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้เน้นย้ำการป้องกันและปราบปราบการทุจริตมาโดยตลอด สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมการเรียกเก็บเงินของผู้อำนวยการในครั้งนี้ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำผิดจรรยาบรรณและทำให้อาชีพข้าราชการครูเสื่อมเสียอย่างมาก อีกทั้งยังทำให้คณะครูขาดขวัญกำลังใจ
ทั้งนี้ หลังจากคณะครูได้ออกมาเปิดโปง และปกป้องศักดิ์ศรีแล้วนั้น เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต เนื่องจากที่ผ่านมา ทุกคนเคยถูกขู่ฆ่าเอาชีวิตมาแล้ว จึงได้เดินทางเข้าลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปคอยดูแลสอดส่องความปลอดภัย เพราะคณะครูทุกคนยังคงปฏิบัติหน้าที่สอนอย่างปกติ และยืนยันที่จะต่อสู่เพื่อความถูกต้อง และปกป้องศักดิ์ศรีแม่พิมพ์ของชาติอย่างถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดแบบอย่างที่ไม่ดีขึ้นในพื้นที่อื่น และให้คนกระทำผิดได้รับโทษต่อไป
ขณะที่ นายภัณฑ์รักษ์ พลตื้อ ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ได้เดินทางเข้าพบ น.ส.ชุลีพร ภูสมศรี ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ เพื่อรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการเรื่องดังกล่าว โดยนายภัณฑ์รักษ์ พลตื้อ ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 กล่าวว่า หลังได้รับเรื่องทาง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ได้ออกคำสั่ง ที่ 74/2560 ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว และให้สรุปผลการรายงานผลภายใน 15 วัน
พร้อมทั้งทำหนังสือคำสั่งที่ ศธ 04020/3779 ส่งถึงผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อให้เข้ามาปฏิบัติราชการที่ สพป.กาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2560 ที่ผ่านมาอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าผลการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ เพื่อความสะดวกในการลงพื้นที่ของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
รวมถึงเป็นการให้พยานสามารถให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ และสามารถเก็บหลักฐานต่างๆ ได้มากที่สุด ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวทาง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ยืนยันว่า การดำเนินการจะต้องให้ความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย และจะเร่งรัดดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาโดยเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม หากผลการสืบสวนข้อเท็จจริงพบว่า มีมูลความจริง ก็จะเสนอเรื่องไปยังศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบวินัยต่อไป