พญาเสือลุยครวจสอบแพที่พักในเขตอุทยานฯ เขาแหลม

กาญจนบุรี - หัวหน้าชุดพญาเสือ นำกำลังหลายฝ่ายปฏิบัติการร่วมในการตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายทวงคืนผืนป่า และติดตามการจัดระเบียบแพที่พัก ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ทั้งเขต อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี

วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยพญาเสือ (กรมอุทยานฯ) นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นายสุภาพ งามทองเหลือง ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม น.อ.สุชาติ อังศุโชติ จนท.กอ.รมน.จ.กาญจนบุรี เจ่าหน้าที่ ตร.ปทส.ภ.จว.กาญจนบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร มว.รส.ร.29/หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี เจ้าหน้าที่กองร้อย ตชด.ที่ 134 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสังขละบุรี ประชุมวางแผนปฏิบัติการร่วมในการตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายทวงคืนผืนป่า และติดตามการจัดระเบียบแพ ที่พัก ที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ทั้งในเขตพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

จากนั้นเวลา 10.00 น. ถึงพื้นที่ตัดฟันแปลงยางพารา ในพื้นที่ขอคืนพื้นที่ป่า และตรวจสอบรื้อทำลายพื้นที่การบุกรุกพื้นที่ปลูกยางพาราของนายทุนท้องที่ ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จำนวน 10 ไร่ จนแล้วเสร็จ และเวลา 14.30 น. เดินทางไปติดตามผลการจัดระเบียบเรือ แพ บริเวณบ้านท่าแพ ท้องที่ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยพญาเสือ (กรมอุทยานฯ) กล่าวว่า การปฏิบัติร่วมครั้งนี้เราได้สรุปข้อมูลในการเข้าดำเนินการเบื้องต้น คือ 1.เข้าดำเนินการในพื้นที่เป้าหมายทวงคืนผืนป่า เนื่องจากบุกรุกพื้นที่หลังปี 2557 ตามคำสั่ง คสช.

2.เข้าดำเนินการพื้นที่เป้าหมายการทวงคืนผืนป่าที่บุกรุกพื้นที่หลังปี 2547 จนถึงปี พ.ศ.2557 ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จำนวน 213 แปลง เนื้อที่ 7,338 ไร่ โดยเมื่อปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ดำเนินการแล้ว จำนวน 142 แปลง เนื้อที่ 5,048.28 ไร่ และปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ดำเนินการแล้ว จำนวน 13 แปลง เนื้อที่ 206.62 ไร่

3.เข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายเพื่อบังคับใช้กฎหมายผู้บุกรุกปลูกยางพาราในพื้นที่อนุรักษ์ ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จำนวน 52 แปลง เนื้อที่ 2,308.96 ไร่ รื้อถอนไปแล้ว 23 แปลง เนื้อที่ 840 ไร่ คงเหลือที่ยังไม่รื้อถอน จำนวน 29 แปลง เนื้อที่ 1,468.96 ไร่

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้อนุมัติการกำหนดขอบเขตบริการบริเวณสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ จุดชมวิวป้อมปี่ อ.สังขละบุรี และบริเวณแก่งกระโตก หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ ให้เป็นเขตบริการ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม และได้ดำเนินการ คือ

ประชุมผู้ประกอบการนำเที่ยว เรือ แพ อ.สังขละบุรี และ อ.ทองผาภูมิ และได้แต่งตั้งคณะทำงานในการดำเนินการจัดระเบียบเรือ แพ และการขออนุญาตเพื่อประกอบกิจการนำเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตามระเบียบทั้ง 2 อำเภอ

ด้าน นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวโซนอำเภอสังขละบุรี มายื่นคำขออนุญาต จำนวน 63 ราย เรือนำเที่ยว จำนวน 99 ลำ อยู่ระหว่างการตรวจเรือ จำนวน 7 ราย เรือ 8 ลำ สำหรับโซนอำเภอทองผาภูมิ มีการนัดหมายรับคำขอในวันนี้ (14 ธ.ค.) พบมีผู้ประกอบการมารอประชุมประมาณ 40 ราย มีผู้มายื่นคำขออนุญาตเรือ 10 ราย จำนวน 33 ลำ เจ้าหน้าที่ได้ทำการวัดระดับเสียงเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 78-80 เดซิเบล ถือว่าผ่านการตรวจสอบ ซึ่งการควบคุมมาตรฐานกรมขนส่งทางบก การใช้ระดับเสียงของเรือต้องไม่เกิน 90 เดซิเบล

ส่วนการประชุมแนวทางการจัดระเบียบเรื่องแพการท่องเที่ยวที่ต้องไปอยู่ในโซนบริการ ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้กำหนดเป็นพื้นที่ และจัดแนวเขตควบคุมอย่างชัดเจน และได้มีระเบียบควบคุมตามแบบที่กรมฯ กำหนดให้ และแนวทางหารือ เช่น 1.ต้องไปอยู่ในพื้นที่จัดให้ทุกราย ผู้ประกอบการายใดไม่ปฏิบัติตามถือว่าผิดระเบียบ ต้องถูกดำเนินคดี 2.รูปแบบแพต้องอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน คือ สามารถผ่านการตรวจสอบจากกรมเจ้าท่าอีกทางด้วย และที่สำคัญต้องมีระบบ บำบัดน้ำเสียให้ถูกต้องตามระเบียบสาธารณสุข

สรุปผลดำเนินการในวันนี้ ผู้ประกอบการต่างเห็นพ้องไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะความเหลื่อมล้ำในเรื่องของจำนวนแพ และความสะอาด สิ่งที่สำคัญ คือ ทุกรายยึดตามคำขอเดิม ซึ่งมีผู้ยื่นแพท่องเที่ยว จำนวน 36 ราย 122 แพ โดยทั้งหมดยอมจะไม่มีการสร้างเพิ่ม ส่วนเรือยื่นขอตรวจทั้งหมด 15 ราย 33 ลำ ส่วนที่เหลือถ้ายังไม่มีการมาเสนอขึ้นบัญชี หากพบการกระทำผิดเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีต่อไป