กาฬสินธุ์ - “บำรุง” จวกรัฐทำโครงการ 9101 เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ชาวบ้านถูกยัดเยียดซื้อพันธุ์ลูกปลา-หัวอาหารแพง ระบุเจ้าหน้าที่รัฐชงเอง ซื้อเอง กินเอง จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบด่วน
จากกรณีชาวบ้านพบความผิดปกติการดำเนินโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด, อ.นาคู, อ.กุฉินารายณ์, อ.ห้วยผึ้ง, อ.เขาวง และ อ.สมเด็จ ซึ่งมีการเสนอซื้อพันธุ์ข้าวเปลือกนาปรัง พันธุ์ปลาดุกขนาดเล็กไม่เหมาะสมกับราคา หัวอาหารปลาดุก และปุ๋ยชีวภาพมีราคาแพงและราคาสูงกว่าท้องตลาด
ล่าสุดวันนี้ (12 ธ.ค.) นายบำรุง คะโยธา อนุกรรมการการมีส่วนร่วมเพื่อการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สำหรับโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อฟื้นฟูอาชีพด้านการเกษตรแก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยหลังน้ำลด ซึ่งการดำเนินโครงการในพื้นที่หลายอำเภอของ จ.กาฬสินธุ์ ถือเป็นเวรกรรมของประเทศไทย ตามโบราณที่ว่า “ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก” เนื่องจากโครงการ 9101 ที่ผ่านมาที่มีการผลิตปุ๋ยกันจำนวนมากนั้นก็ยังเคลียร์ปัญหากันไม่ได้
ทั้งผลการตรวจสอบยังไม่มีความกระจ่างชัดเลย เพราะยังมีคำถามมากมายว่าภาครัฐมีการชงเอง จัดซื้อเอง กินเอง โดยที่ชาวบ้านไม่รู้เรื่องแล้วนำมายัดเยียดให้
ขณะนี้โครงการ 9101 ฟื้นฟูน้ำท่วมยิ่งมีปัญหาหนักกว่าเดิม เพราะมีชาวบ้านร้องเรียนมาหลายพื้นที่ว่าปลาดุกราคาตัวละ 2 บาท ถึง 2.50 บาท นั้นเป็นปลาดุกลูกอ๊อดตัวเล็กมาก ซึ่งเทียบกับราคาซื้อขายในท้องตลาดนั้นปลาดุกขนาดเท่าหัวแม่มือราคาเพียง 1 บาทเท่านั้น
นายบำรุงกล่าวอีกว่า จากประสบการณ์ที่ทำเกษตรพอเพียงและเลี้ยงปลามาตลอดระยะเวลา 40 ปี ก็เพิ่งเห็นหัวอาหารที่นำมาแจกจ่ายชาวบ้านเป็นครั้งแรกที่เป็นหัวอาหารไม่มีขายในท้องตลาดและมีราคาสูงถึงกระสอบละ 600 บาท เป็นราคาที่แพงมาก เพราะราคาของหัวอาหารทั่วไปไม่ว่าจะเป็นอาหารสำเร็จรูปและเม็ดลอยน้ำทั่วไปก็ราคาประมาณ 400 กว่าบาทเท่านั้น ซึ่งตนซื้อประจำ
“ที่สำคัญ การดำเนินโครงการก็ไม่ได้ปรึกษาชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านหลายคนอยากปลูกข้าวเพราะน้ำท่วมเสียหายไม่มีข้าวจะกินก็ไม่ให้ปลูก จะปลูกผักก็ไม่ให้ปลูก” นายบำรุงกล่าว และว่า พยายามบังคับให้เลี้ยงปลาอย่างเดียว เลี้ยงกันทั้งจังหวัด โดยเอาท่อปูน กระชัง ลูกปลามาแจกมายัดเยียดให้ชาวบ้าน ซึ่งไม่รู้ว่าจำนวนเท่าไหร่ ถือเป็นความไม่โปร่งใส จึงอยากฝากถึงผู้มีอำนาจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน เพราะชาวบ้านเขาเดือดร้อนจริงๆ ซึ่งเท่าที่ทราบยังมีปัญหาอีกหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด และ อ.นาคู อ.กุฉินารายณ์ อ.ห้วยผึ้ง เขาวง และ อ.สมเด็จ