ลำปาง - เหยื่อคลินิกศัลยกรรมฉาวลำปางยังโผล่ขึ้นโรงพักแจ้งความเพิ่มไม่หยุด ล่าสุดยอดเกิน 20 รายแล้ว มีทั้งแก้มบวม จมูก-คางเน่าครบเซต พบมือมีดผ่าตัดคาดเป็น “หมอกำมะลอ” อ้างตัวสวมชื่อ “หมอดิว” แถมพบมีคนดอดถอดคอมพ์แอร์-ขนของออก “ดีไวน์คลินิกฯ” แทบเกลี้ยงแล้ว
รายงานข่าวแจ้งถึงความคืบหน้ากรณี นายจิรัชญา คำพูน สาวประเภทสองชาวลำพูน วัย 22 ปี เข้ารับการผ่าตัดเสริมทรวงอกที่ ดีไวน์คลินิกเวชกรรม จ.ลำปาง แล้วเสียชีวิตลงเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นทาง สสจ. ตำรวจ ทหาร ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพบว่าคลินิกดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตสถานพยาบาล และมีผู้เสียหายที่ใช้บริการศัลยกรรมเข้าแจ้งความต่อเนื่องนั้น
ล่าสุด พ.ต.อ.จิตตพล วงษ์วัน ผกก สภ.เมืองเขลางค์นคร, พ.ต.ท.พินิจ เนตรปัญญา รอง ผกก.สืบสวน และ พ.ต.ท.ทระนง ศรีคำวัง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เขลางค์ พร้อมชุดสืบสวนและสอบสวนกว่า 20 นาย ได้หารือกันตลอดครึ่งวันวานนี้ (3 พ.ย.) เพื่อสรุปข้อมูล และพยานหลักฐานเกี่ยวกับกรณีของดีไวน์คลินิกเวชกรรม
ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเขลางค์นครก็ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของคลินิก คือ นางสาวจันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน อายุ 20 ปี ไปแล้ว 2 ข้อหา พร้อมออกหมายเรียกให้ นายจิรเดช เกตุรัตนกุล หรือหมอดิว มาให้ปากคำในวันที่ 11 พ.ย. เวลา 09.00 น. นี้ ณ สภ.เขลางค์นคร
หลังจากที่ได้ทำการสอบปากคำพยานไปรวม 10 ปาก ซึ่งเป็นพนักงานในคลินิกดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ อ้างว่าผู้ที่ทำการผ่าตัดเสริมทรวงอก กระทั่งนายจิรัชญาเสียชีวิต คือ นายจิรเดช เกตุรัตนกุล หรือหมอดิว แต่ตลอด 2 วันที่ผ่านมาจากการสอบปากคำผู้เสียหายที่เข้ามาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนรวมเกือบ 20 ราย ผู้เสียหายกลับไม่แน่ใจว่ารูปของนายแพทย์ที่ทำการศัลยกรรมทั้งจมูก ปาก คาง แก้ม และอื่นๆ ให้นั้น ตรงกับรูปนายแพทย์จิรเดชที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียจริงหรือไม่ จึงเกิดคำถามว่า หากชื่อกับตัวจริงที่ทำการผ่าตัดไม่ใช่คนเดียวกันแล้ว ผู้ที่ใช้ชื่อนายแพทย์ จิรเดช และมาทำการผ่าตัดที่ดีไวน์คลินิกคือใครและเป็นแพทย์จริงหรือไม่
ผกก.สภ.เขลางค์นครจึงได้ตั้งชุดเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อติดตามหาตัวแพทย์ที่ทำการผ่าตัดคนดังกล่าว โดยได้แบ่งกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.32 เป็น 4 ชุด ออกเก็บหลักฐานเพิ่มเติม โดย 2 ใน 4 ชุดได้เข้าค้นหาหลักฐานที่บ้านของนางสาวจันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน ที่มีชื่อเป็นเจ้าของคลินิก แต่ปรากฏว่าไม่พบตัว พบเพียงญาติผู้ใหญ่อยู่ตามลำพัง และบอกเพียงว่าไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น
กำลังชุดที่สองได้เข้าตรวจค้นที่ดีไวน์คลินิกเวชกรรม ปรากฏว่าบริเวณอาคารที่เคยมีการตั้งคอมเพรสเซอร์เครื่องปรับอากาศไว้ได้ถูกถอดออกไปทั้งหมดแล้ว สิ่งของสำคัญในอาคารก็ถูกเก็บออกทั้งหมดเช่นกัน เหลือเพียงที่นอนผ่าตัด และอุปกรณ์ในห้องผ่าตัดบางส่วน รวมถึงเสื้อกาวน์หมอ ซึ่งมีชื่อ นพ.จิรเดช เกตุรัตนกุล ปักที่หน้าอกเสื้อด้านขวา ส่วนด้านซ้ายปักคำว่า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานทั้งหมดไว้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ไปติดตามหารูปภาพผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นแพทย์ผ่าตัดเสริมความงามให้ผู้เสียหายอีกหลายรายจากแหล่งต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อนำมาเปรียบเทียบภาพในวันเกิดเหตุ ซึ่งทางคลินิกได้ทำการถ่ายทอดสดทางเฟซบุ๊กก่อนที่จะทำการผ่าตัดด้วย ว่าจะเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากนายแพทย์ จิรเดชตัวจริงได้มีการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนหน้านี้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ส่วนเมมโมรีการ์ดที่บันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณคลินิกไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากมีการนำการ์ดออกไปก่อนตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุแล้ว
ขณะเดียวกัน เย็นวานนี้ (3 พ.ย.) ก็มีผู้เสียหาย ซึ่งเข้าใช้บริการกับดีไวน์คลินิกเวชกรรม เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร เพิ่มเติมอีก ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ไว้แล้วกว่า 20 ราย โดย 2 รายล่าสุดเพิ่งเข้าใช้บริการก่อนหน้าที่สาวประเภทสองจะเข้าเสริมทรวงอกแล้วเสียชีวิตเพียง 3 วัน
คนหนึ่งเข้าใช้บริการทำตาสองชั้น เสริมจมูก และอีกคนผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้ม ด้วยราคา 7,500 บาท แต่แก้มบวมและเป็นไตแข็ง ซึ่งทางคลินิกนัดให้เข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง แต่เมื่อเป็นข่าวขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อกับคลินิกได้อีกเลย
ผู้เสียหายยังยืนยันว่า บุคคลที่ให้คำปรึกษาก่อนเข้าทำศัลยกรรม และเป็นผู้ลงมือผ่าตัดศัลยกรรมให้ตนเองชื่อหมอดิว และสามารถชี้รูปบุุคคลคนหนึ่ง ซึ่งเป็นชายอายุประมาณ 20-30 ปี ได้อย่างชัดเจน
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนระบุว่า บุคคลที่ผู้เสียหายชี้ตัวว่าเป็นนายแพทย์ จิรเดช เกตุรัตนกุล หรือหมอดิว ที่ทำการผ่าตัดเสริมความงามให้ลูกค้าของดีไวน์คลินิกนั้น เป็นคนละคนกับนายจิรเดช เกตุรัตนกุล ที่มีรูปปรากฏในโซเชียลมีเดีย ซึ่งเจ้าตัวได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจห้วยขวาง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
ส่วนบุุคคลที่ผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นแพทย์ชื่อหมอดิวนั้น ขณะนี้คาดว่าจะไม่ใช่แพทย์ แต่รายงานข่าวแจ้งว่าเป็นเพียงพี่เขยของ นางสาวจันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของดีไวน์คลินิกเวชกรรม และเรียนจบด้านสาธารณสุขเท่านั้น ไม่ได้เรียนจบแพทย์ แต่อาจจะเคยเข้าฝึกงานในสถานพยาบาลที่ให้บริการด้านความสวยความงามจนพอเข้าใจ และรู้วิธีการผ่าตัดต่างๆ บ้าง จึงนำชื่อหมอมาสวมเป็นตนเอง และรับทำศัลยกรรมดังกล่าวจนสุดท้ายมีผู้เสียชีวิต
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามล่าตัวบุคคลดังกล่าวแล้ว เนื่องจาก นางสาวจันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน ไม่ปริปากให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับบุคคลคนนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ออกหมายจับบุคคลตามภาพที่ปรากฏต่อไป แต่ทั้งนี้ขอให้ผู้เสียหายที่สามารถชี้ตัวบุคคลที่ทำการผ่าตัดได้มาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนโดยเร็ว เพื่อจะได้ยืนยันตัวตนของบุคคลดังกล่าวได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
