ลำปาง - ตำรวจนำตัว “เบญ-หมอกำมะลอ” มือมีดผ่าเสริมเต้าสาวประเภทสองชาวลำพูนดับทำแผนทันที หลังนำตัวจากกองปราบฯ ถึงลำปาง เจ้าตัวรับหมดเปลือก พร้อมเยียวยาผู้เสียหาย บอกเรียนจบด้านท่องเที่ยว แต่เคยฝึกทำศัลยกรรมจากสถาบันเถื่อนจนชำนาญก่อนทำเอง
วันนี้ (12 พ.ย.) พ.ต.อ.จิตตพล วงษ์วัน ผกก.สภ.เขลางค์นคร จ.ลำปาง, พ.ต.ท.พินิจ เนตรปัญญา รอง ผกก.สืบสวน และ พ.ต.ท.ทระนง ศรีคำวัง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เขลางค์ พร้อมชุดสืบสวนและสอบสวน สภ.เขลางค์ ได้นำตัวนายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ หรือเบญ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดลำปาง ที่ 246/2560 ลงวันที่ 6 พ.ย. 2560 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา แต่ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายและเสียชีวิต ซึ่งแอบอ้างเป็นหมอศัลยกรรม-นายแพทย์จิรเดช เกตุรัตนกุล ผ่าตัดศัลยกรรมเสริมทรวงอกให้สาวประเภทสองชาวจังหวัดลำพูนจนเสียชีวิต เดินทางจากกองบังคับการปราบปราม ถึง สภ.เขลางค์แล้ว
จากนั้นได้นำตัวนายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ “ดีไวน์คลินิกเวชกรรม” โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวชี้ห้องที่นายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ ทำการผ่าตัดสาวประเภทสองแล้วเสียชีวิต และห้องต่างๆ ที่มีการเปิดให้บริการภายในคลินิก ซึ่งนายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ ได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ ระหว่างทำแผน นายธนัชพงศ์ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวที่ติดตามไปทำข่าวด้วยอาการสำรวม และยกมือไหว้เกือบตลอดเวลา โดยเจ้าตัวรับผิดทุกข้อกล่าวหา ยอมรับเป็นผู้ลงมือทำการผ่าตัดจริง และพร้อมจะเยียวยาผู้เสียหายทุกคนอย่างเต็มความสามารถ แต่ยังยืนยันว่าตนไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายใคร ตนเจตนาดี และต้องการให้ผู้ที่ต้องการสวยในราคาถูกเข้าถึงได้ ซึ่งในสาขาลำปางมีลูกค้าที่เป็นสมาชิก 1,500 ราย
นายธนัชพงศ์บอกว่า ที่ผ่านมาตนเรียนจบด้านท่องเที่ยว แต่ด้วยสาเหตุที่ตนรักและชอบด้านนี้ จึงได้ไปเรียนด้านการทำศัลยกรรมกับสถาบันแห่งหนึ่งที่เปิดสอนด้านนี้ แต่ไม่มีใบอนุญาต
นายธนัชพงศ์กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้เป็นหมอ แต่ได้เข้าฝึกทำการศัลยกรรมกับแพทย์หลายๆ ท่านขณะทำการผ่าตัดในกรณีทำศัลยกรรมต่างๆ จนชำนาญ และสามารถทำได้เอง จึงลงมือทำเอง แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะทำไปตลอดด้วยที่ตนเป็นเจ้าของธุรกิจอยู่แล้ว หากเปิดสาขาลำปางถึงสิ้นปีนี้ตนก็จะหยุดทำ แล้วจะให้แพทย์จริงมาเป็นผู้ดำเนินการแทน
นายธนัชพงศ์ยอมรับว่าดีไวน์คลินิกเวชกรรมเป็นของตน สำหรับมะปราง ที่มีชื่อเป็นเจ้าของ เป็นเพียงผู้ยื่นจดทะเบียนด้านเอกสารเท่านั้น
ส่วนที่บอกว่าก่อนหน้านี้ตนเป็นผู้ดูแล หรือเป็นเสาหลักของครอบครัวนั้น นายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ พูดด้วยน้ำตาคลอว่าเป็นเรื่องจริง หลังจากที่ตนเรียนจบเมื่อ 10 ปีก่อนก็เป็นผู้ดูแลครอบครัวมาตลอดไม่เคยขาดตกบกพร่อง เรื่องนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้น
“หากผมไม่มั่นใจผมจะไม่ทำเลย เปรียบเหมือนหมอตำแย ผมมีความสามารถรักด้านนี้ และลงทุนกับเครื่องมือไปมหาศาลเท่าที่ผมหามาได้ ผมก็อยากทำให้ดี และไม่เคยคิดว่าจะเกิดความผิดพลาดแบบนี้ขึ้นมา ส่วนนายแพทย์ จิรเดชตัวจริงเคยทำงานที่คลินิกที่กรุงเทพฯ แต่ที่ลำปางไม่เคยมาแต่อย่างใด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น”
พ.ต.อ.จิตตพล วงษ์วัน ผกก.สภ.เขลางค์นคร กล่าวว่า ในชั้นนี้ผู้ต้องหารับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และพร้อมเยียวยาผู้เสียหายทุกราย เบื้องต้นคงต้องคัดค้านการประกันตัวก่อน และฝากถึงผู้ที่ไปใช้บริการที่เคยมาทำศัลยกรรมและไม่เป็นไปตามที่ตกลง หรือเสียหาย หรือกรณีที่มัดจำไปก่อนหน้านี้แล้ว ให้มาแจ้งความประสงค์ที่ สภ.เขลางค์ได้ เพื่อจะได้พบกับผู้ต้องหาและเรียกร้องความเสียหายที่เกิดขึ้น
ส่วนข้อกล่าวหา เดิมได้ตั้งไว้หนึ่งข้อกล่าวหาคือ ฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา แล้วก็จะเพิ่มข้อหาเปิด และให้บริการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และอีกข้อหากำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน คือ เกี่ยวกับการไม่มีใบประกอบโรคศิลปะ ขณะที่ “มะปราง หรือนางสาวจันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน” ก็ยังคงตั้งข้อหาเดิม คือ เปิดและให้บริการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนข้อหาอื่น หากสอบสวนแล้วพบว่ามีส่วนรู้เห็นด้วยก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล