ลำปาง - สาววังเหนือ เหยื่อศัลยกรรมสยองจนคางเน่า ขึ้นโรงพักแจ้งดำเนินคดีคลินิกฉาวเพิ่มอีกราย รวมผู้เสียหายแจ้งความครึ่งวันนี้ 6 ราย ขณะที่ตำรวจออกหมายเรียกหมอมือผ่าตัดเสริมเต้าสาวประเภทสองชาวลำพูนดับแล้ว
วันนี้ (1 พ.ย.) น.ส.ปภาดา มุ่งเมิน อายุ 24 ปี สาวชาว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง ผู้เสียหายจากการทำศัลยกรรมเสริมใบหน้าและคาง แต่สุดท้ายคางเน่าต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลลำปาง และต้องหมดค่ารักษาพยาบาลด้วยตัวเอง ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เขลางค์นคร ต.ปงแสงทอง อ.เมืองลำปาง เพื่อดำเนินคดีต่อ ดีไวน์คลินิกเวชกรรม สถานเสริมความงามฉาว ที่เสริมเต้าสาวประเภทสองชาวลำพูนแล้วเสียชีวิต
น.ส.ปภาดาเปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 60 ได้รับการชักชวนจากเพื่อนว่า คลินิกดังกล่าว ซึ่งเปิดใหม่และจัดโปรโมชันด้วยการให้ทำเมโสหน้าใสฟรี แต่ต้องมาด้วยกัน 10 คนขึ้นไป ตนอยากหน้าใส ซึ่งตนยังเรียนหนังสือชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และทำงานพิเศษเป็นพนักงานต้อนรับในร้านอาหารแห่งหนึ่งด้วย จึงสนใจและทดลองเข้าไปใช้บริการ
เริ่มจากการทำเมโสหน้าใสฟรี จากนั้นทางคลินิกได้เสนอโปรโมชันต่างๆ ในราคาพิเศษ เช่น ทำเมโสหน้าใส 4 เข็ม 1,000 บาท ดูดไขมันแก้ม 5,900 บาท ซึ่งตนก็สนใจ จึงตัดสินใจดูดไขมัน ฉีดลดเหนียง ฉีดลดคาง ฉีดผิวขาว เสริมคาง รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดเกือบ 30,000 บาท
โดยทยอยทำทีละอย่าง หลังจากเริ่มผ่าดูดไขมันที่แก้ม ก็ตามด้วยผ่าตัดเสริมคางเมื่อประมาณปลายเดือนพฤษภาคม จากนั้นประมาณหนึ่งสัปดาห์ตนเห็นว่าคางไม่ได้รูป จึงกลับไปให้ทางคลินิกแก้ไข โดยต้องจ่ายเพิ่มอีก 1,500 บาท แต่จากนั้นหน้าเริ่มบวม จึงกลับไปให้คลินิกรักษา หมอได้ฉีดยาลดบวมที่แก้ม และที่สะโพก
แต่ผ่านไปไม่ถึงสัปดาห์แผลที่ผ่าตัดที่แก้ม-คางเริ่มปริ ปวด แดง และเริ่มเป็นสีม่วง ตนจึงตัดสินใจไปที่โรงพยาบาลลำปางในวันศุกร์ หมอดูอาการ และให้ยาไปรับประทานก่อน พร้อมนัดมาทำการรักษากับแพทย์เฉพาะทางในวันจันทร์ ปรากฏว่าวันอาทิตย์แผลเริ่มแตก ตนจึงรีบไปที่โรงพยาบาล หมอบอกว่าแผลติดเชื้ออักเสบ และได้ให้การรักษาพยาบาลประมาณหนึ่งสัปดาห์ เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลไปทั้งหมด 18,460 บาท
“จากนั้นตนได้แจ้งให้ทางคลินิกทราบ โดยคลินิกได้รับผิดชอบโอนเงินมาให้เพียง 18,000 บาทเท่านั้น ส่วนต่างตนเองต้องชำระเอง ต่อมาตัดสินใจไปเอาซิลิโคนที่เสริมคางที่ไม่ได้รูปออกที่โรงพยาบาลลำปาง โดยเสียค่าใช้จ่ายเองอีก 5,000 บาท”
น.ส.ปภาดากล่าวอีกว่า เมื่อตนเองรักษาแผลหายแล้ว แต่ขณะนี้คางที่เสริม และเอาซิลิโคนออกยังเป็นไตแข็ง ซึ่งต้องรออีกระยะว่าจะสามารถรักษาให้เป็นปกติได้หรือไม่ ขณะที่ทางคลินิกได้ติดต่อมายังตนเพื่อทวงค่าใช้จ่ายที่ค้างอยู่อีกประมาณ 1 หมื่นบาท และให้กลับไปยกเลิกสัญญา แต่ตนไม่จ่าย และไม่กลับไปเซ็นยกเลิกสัญญาใดๆ อีกเพื่อต้องการให้เรื่องจบ
แต่ปรากฏว่าเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาทางคลินิกดีไวน์ สาขาเชียงใหม่ ได้นำรูปภาพของตน หลังรักษาตัวในโรงพยาบาลลำปาง ซึ่งทางแพทย์ได้ช่วยแก้ไขและรักษาจนใบหน้าดีขึ้นแล้วไปโพสต์ในไลน์ส่วนตัว นำไปใช้ในการโฆษณาคลินิกโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ตนเองต้องนำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อเจ้าของคลินิกดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อ 14.50 น. มีผู้เสียหายที่เคยเข้าใช้บริการศัลยกรรมจมูกที่คลินิกดังกล่าว แล้วต้องผ่าตัดแก้ไขถึง 3 รอบจนจมูกเริ่มเน่า มีหนองไหลออกมา และมีซิลิโคนโผล่ เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีอีกรายด้วย
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า ในช่วงครึ่งวันนี้ (1 พ.ย.) มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อดีไวน์คลินิกเวชกรรม รวม 7 คนแล้ว
ส่วนแพทย์ที่ทำการผ่าตัดเสริมทรวงอกให้นายจิรัชญา คำพูน อายุ 22 ปี สาวประเภทสองชาวลำพูนแล้วผู้ป่วยเสียชีวิตนั้น ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งหมายเรียกไปแล้ว โดยเจ้าตัวขอเข้าพบพนักงานสอบสวนหลังเสร็จพิธีฌาปนกิจศพนายจิรัชญาแล้ว
ทั้งนี้ จากการติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน พบว่าทางคลินิกได้ให้เบอร์ผู้ประสานงานของคลินิกไว้ เพื่อให้ผู้เสียหายโทรศัพท์ติดต่อเจรจาค่าเสียหายทุกราย ดังนั้น หากผู้เสียหายรายใดที่เข้าใช้บริการกับคลินิกดังกล่าว สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนได้ที่ สภ.เขลางค์นคร