บุรีรัมย์ - เกิดเหตุชายฉกรรจ์อายุ 35-40 ปีอ้างตัวเป็นตำรวจหลอกนักเรียนหญิงชั้น ม.4 ซ้อนท้ายจักรยานยนต์ อ้างให้ช่วยเป็นสายล่อซื้อยาแต่กลับขี่พาเข้าป่าอ้อย เพื่อนเห็นผิดปกติโทร.เข้ามือถือได้ยินเสียงร้องไห้พร้อมบอกถูกมีดจี้ไว้ห้ามพูดอะไร เพื่อนโทร.แจ้งตำรวจช่วยเหลือระดมกำลังไล่ล่าวุ่น สุดงงคนร้ายกลับใจยอมขี่จักรยานยนต์พามาส่งคืนโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น บอกเป็นเรื่องเข้าใจผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์รับแจ้งเหตุ สภ.เมืองบุรีรัมย์ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากนักเรียนหญิงคนหนึ่งว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. (1 พ.ย.) มีชายฉกรรจ์อายุประมาณ 35-40 ปี แต่งกายคล้ายตำรวจ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหลอกล่อให้กลุ่มนักเรียนหญิงซึ่งนั่งกันอยู่ 4 คน บริเวณคลองละลมโบราณในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ช่วยไปเป็นสายล่อซื้อยาเสพติด พร้อมบอกจะให้เงินเป็นค่าจ้าง 1,000 บาท ซึ่ง น.ส.บี และ น.ส.ซี (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง หลงเชื่อขี่รถจักรยานยนต์ตามชายคนดังกล่าวไป
แต่พอไปถึงบ้านตามั๊ว ต.ชุมเห็ด ชายคนที่อ้างเป็นตำรวจได้ออกอุบายให้ น.ส.บี หนึ่งในนักเรียนที่หลงเชื่อขี่รถจักรยานยนต์ตามไปไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของตนเอง โดยอ้างว่าใกล้ถึงจุดหมายที่จะทำการล่อซื้อแล้ว เมื่อ น.ส.บีหลงเชื่อไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ด้วย บอกให้ น.ส.ซี เพื่อนนักเรียนอีกคนขี่รถนำหน้า ก่อนอาศัยช่วงเผลอขี่รถเลี้ยวหายไป ซึ่ง น.ส.ซี เพื่อนนักเรียนที่ไปด้วยกันพยายามขี่รถตามหาแต่ไม่เจอ
จึงตัดสินใจขี่กลับมาหาเพื่อนยังจุดเดิมที่บริเวณคลองละลมโบราณ แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟัง ด้วยความเป็นห่วงจึงได้โทรศัพท์ติดต่อหา น.ส.บี ซึ่งติดต่อได้แต่ไม่มีการรับสาย จึงพยายามโทร.อีกหลายครั้ง น.ส.บีจึงรับสาย และได้ยินเสียงร้องไห้เหมือนกับหวาดกลัว พร้อมบอกกับเพื่อนว่าถูกชายคนดังกล่าวใช้มีดจี้ไว้อยู่บริเวณป่าอ้อยใกล้ๆ และบอกห้ามพูดอะไร ก่อนวางสาย เพื่อนเห็นท่าไม่ดีจึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ให้ช่วยเหลือ น.ส.บี
หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้กระจายกำลังออกติดตามค้นหานักเรียนหญิงที่ถูกชายฉกรรจ์หลอกพาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์หายไป โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงแต่ไร้วี่แวว กระทั่งต่อมาได้รับแจ้งจากเพื่อนนักเรียนหญิงกลุ่มดังกล่าวว่าชายที่อ้างเป็นตำรวจได้ขี่รถกลับมาส่ง น.ส.บีที่บริเวณคลองละลมแล้ว โดยไม่ได้รับอันตรายถูกกระทำอนาจารแต่อย่างใด ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะขี่รถหลบหนีไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำ น.ส.บีไปที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อสอบถามข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่สอบถามแล้วแจ้งว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด และ น.ส.บีไม่ได้ติดใจเอาความเพราะไม่ได้รับอันตรายใดๆ เพียงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ส่วนกรณีที่ชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ น.ส.บี นักเรียนหญิงคนดังกล่าวจะโชคดีที่คนร้ายกลับใจมาส่งคืนอย่างปลอดภัย แต่ฝากเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยแก่เยาวชน นักเรียน อย่าหลงเชื่อไปกับคนที่ไม่รู้จัก ไม่เช่นนั้นอาจไม่โชคดีเหมือนกับนักเรียนหญิงรายนี้ก็เป็นได้