โร่แจ้งตำรวจ ตามจับแก๊งมิจฉาชีพโกงตาชั่งซื้อหมูชาวบ้าน

บุรีรัมย์ - โร่แจ้งตำรวจบุรีรัมย์ ตามจับแก๊งมิจฉาชีพพ่อค้าหมู ตระเวนซื้อหมู ใช้กลโกงกดแท่นลูกตุ้มตาชั่งพบน้ำหนักหายกว่าครึ่ง 2 พี่น้องที่ตกเป็นเหยื่อสูญเงินหลายหมื่น

วันนี้ (28 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านม่วง หมู่ 2 ตำบลกระสัง อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ว่า มีแก๊งมิจฉาชีพขับรถกระบะตระเวนซื้อหมูเป็นตามหมู่บ้าน แล้วใช้เล่ห์กลโกงตาชั่งน้ำหนักไม่ตรงตามความเป็นจริง สร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับเกษตรกร จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบ สภ.เมืองบุรีรัมย์ จึงลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า ผู้เสียหายที่ถูกโกงตาชั่งซื้อขายหมู คือ นางบุญสม อาญาเมือง อายุ 52 ปี และ นางสร้อย อักษรณรงค์ อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน มีอาชีพทำนาและเลี้ยงหมู สอบถามทั้งสองให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงสายได้มีชายฉกรรจ์ 6 คน ขับรถกระบะสีบรอนซ์ทอง จำหมายเลขทะเบียนได้เพียง 1778 สุรินทร์ แต่จำหมวดอักษรไม่ได้ มาตระเวนซื้อหมูเป็น ตามคอกที่ชาวบ้านเลี้ยงในหมู่บ้าน

บอกจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 52 บาท ทั้งสองพี่น้องจึงตัดสินใจขายให้ เนื่องจากหมูที่เลี้ยงไว้กว่า 4 เดือน ก็โตเต็มที่แล้ว ทั้งสองพี่น้องตกลงซื้อขายหมดคอกรวมจำนวน 10 ตัว ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยได้ยินข่าวว่ามีการโกงตาชั่งในหลายพื้นที่ จึงได้ไปยืมเครื่องชั่งน้ำหนักแบบแท่นที่ใช้สำหรับชั่งข้าวสารของหมู่บ้านมาเพื่อป้องกันการโกงตาชั่ง

จากนั้นชายฉกรรจ์ทั้ง 6 คน ก็รีบจับหมูในคอกใส่กรงที่เตรียมใส่รถมาเองขึ้นชั่งทันที โดยหมู 10 ตัวใช้เวลาจับจากคอกและชั่งน้ำหนักไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทำแบบรีบร้อนจนหมูบางตัวถึงกับขาหัก แต่พอชั่งเสร็จแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวกลับคำนวณน้ำหนักหมู หลังหักน้ำหนักกรงออกแล้ว เหลือเพียงตัวละ 50 - 80 กิโลกรัมเท่านั้น รวมเป็นเงิน 32,500 บาท

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 1 เดือน ได้จับหมูในคอกขายให้กับผู้ใหญ่บ้านไป 1 ตัว น้ำหนักถึง 107 กิโลกรัม ราคา 6,400 บาท เวลาผ่านไปอีก 1 เดือน น้ำหนักหมูแต่ละตัวก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 110 - 120 กิโลกรัม หากคิดเป็นเงินก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 60,000 - 70,000 บาท จึงเชื่อว่าน่าจะถูกโกงน้ำหนักแน่ เพราะช่วงที่มีการชั่งน้ำหนัก ก็จะมีชายคนหนึ่งยืนจับบริเวณแท่นลูกตุ้มตาชั่ง อาจจะมีการใช้มือกดแท่นลูกตุ้มทำให้น้ำหนักเบาลง

แต่พอเจ้าของหมูทักท้วงขอให้ชั่งใหม่อีกรอบ เพราะเชื่อว่าน้ำหนักหมูไม่ตรงตามความเป็นจริง แต่แก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวกลับแสดงอาการไม่พอใจ ทั้งพูดด้วยน้ำเสียงดุดันด้วยว่า “ใครจะไปชั่งใหม่มันหนัก จะขายไม่ขาย” ทำให้สองพี่น้องเจ้าของหมูจำใจต้องขาย เพราะหมูบางตัวก็มีอาการบาดเจ็บ และขาหักแล้ว จากนั้นแก๊งมิจฉาชีพก็จ่ายเงินค่าหมูให้กับสองพี่น้อง แล้วรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากแก๊งมิจฉาชีพขับรถออกไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็เล่าให้คนในครอบครัวและญาติพี่น้องฟัง จึงแนะนำให้ทั้งสองไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพราะมั่นใจว่าถูกโกงตาชั่งแน่นอน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามตัวแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวมาดำเนินคดี จะได้ไม่ไปก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นซ้ำอีก