เพชรบูรณ์ - คลื่นนักท่องเที่ยวทะลักขึ้นค้างคืนบน “ภูทับเบิก” ช่วงหยุดยาวเริ่มไฮซีซันปีนี้นับหมื่น ท่ามกลางกระแสข่าว ม.44 ทุบ-รื้อรีสอร์ต ขณะที่ตำรวจเร่งแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวขับรถลงเขาวันนี้ต้องระวัง หลังมีฝนตกน้ำป่าหลากผ่านผิวจราจรโค้ง S1
แม้รีสอร์ตบนภูทับเบิก ต.วังบาล และบ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ จะตกอยู่ท่ามกลางกระแสถูกไล่รื้อ หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกประกาศคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 35/59 แก้ไขปัญหาและจัดระเบียบรีสอร์ตบนภูทับเบิก ต.วังบาล และบ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวที่กำลังเริ่มเข้าสู่ไฮซีซันปีนี้เลยแม้แต่น้อย
ล่าสุด ร.ต.ท.ยุทธนา ผ่องใส รอง สว.(ป), ด.ต.สรไกร บัวทอง ผบ.หมู่(ป), จ.ส.ต.กิตติพงษ์ บุญเข้ม ผบ.หมู่(ป) ปฏิบัติหน้าที่สายตรวจทับเบิก แหล่งท่องเที่ยวดังของจังหวัดเพชรบูรณ์ ว่า ช่วงวันหยุดยาวนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปเที่ยวบนภูทับเบิกเป็นจำนวนมาก คืนที่ผ่านมา (22 ต.ค.) มีนักท่องเที่ยวค้างบนภูทับเบิกราว 9,000-10,000 คน รถยนต์ประมาณ 1,900-2,000 คัน
ทำให้รีสอร์ตที่พักต่างๆ รวมทั้งเต็นท์ที่พักถูกจับจองจนเต็ม หลายคนไปชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นตามจุดชมวิวต่างๆ ท่ามกลางอุณหภูมิลดต่ำลงราว 14-16 องศาเซลเซียส ทำให้สภาพอากาศค่อนข้างหนาวเย็นและมีหมอกลงจัดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เริ่มมีเสียงร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่าราคาอาหารแพงเกินกว่าความจริง โดยมีนักท่องเที่ยวบางรายโพสต์บนสื่อโซเชียลมีเดียแจ้งเตือนให้สอบถามราคาก่อน โดยอ้างว่าเคยกินข้าวต้มเปล่าๆ ชามละ 30 บาทมาแล้ว ทำให้มีเสียงตอบโต้ว่า อย่าโลกสวย หากแพงก็ไม่ต้องกิน ราคาวัตถุข้างบนค่อนข้างแพงและถือเป็นปกติสำหรับแหล่งท่องเที่ยวบนภูเขา จนทำให้กลายเป็นประเด็นดรามาเกิดขึ้น
ร.ท.ชัชวาลย์ รักหาญ รองประธานชมรมธุรกิจการท่องเที่ยวเขาค้อ กล่าวว่า ค่อนข้างพอใจกับการเปิดตัวฤดูกาลท่องเที่ยวเขาค้อในปีนี้ โดยสังเกตได้จากปริมาณนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนและท่องเที่ยวที่เขาค้อในช่วงนี้มีปริมาณเพิ่มจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย
แต่ที่น่าประทับใจก็คือนักท่องเที่ยวเริ่มมีคุณภาพและทำการบ้านวางแผนการท่องเที่ยวมาค่อนข้างดี โดยสังเกตได้จากการกระจายตัวไปยังจุดชมทิวทัศน์ต่างๆ ไม่กระจุก ณ ที่ใดที่หนึ่งเพียงแห่งเดียว แม้บางจุดจะมีรถหนาแน่น แต่สุดท้ายก็ไปได้
แต่ด้วยปริมาณรถที่คับคั่งส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นหลายราย โดยเมื่อ 22 ต.ค.ที่ผ่านมาเกิดเหตุรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน กค 8222 เพชรบูรณ์ มีนายสุรพล จุลเกาะ เป็นคนขับ แหกโค้งลงเนิน S2 ขณะขับลงจากเขาภูทับเบิกบนถนนสายบ้านเนิน-ภูทับเบิก โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังมีนักท่องเที่ยวขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ หมายเลขทะเบียน 4กต 7292 กรุงเทพมหานคร ตกเนินเขาบริเวณหน้ารีสอร์ตภูทะเลหมอก มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย
นอกจากนี้ยังเกิดเหตุระทึก เมื่อรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่น CRV หมายเลขทะเบียน กช 3700 กรุงเทพมหานคร ของนักท่องเที่ยวจาก จ.สมุทรปราการ ซึ่งกำลังจะขับขึ้นเขาค้อไปตามถนนทางหลวงสายนางั่ว-สะเดาะพง เพื่อไปชมทะเลหมอกบนเขาค้อ เมื่อมาถึงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 18-19 หมู่ 3 ต.ริมสีม่วง อ.เขาค้อ กลับมีกลิ่นไหม้และมีควันไฟขึ้นที่บริเวณกระโปรงหน้ารถ ก่อนมีไฟลุกติดบริเวณห้องเครื่องลามไหม้รถวอดเสียหายทั้งคัน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีฝนตกคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าจากภูโปดไหลหลากท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน และถนน ตั้งแต่หน้า ร.ร.บ้านเนิน ถึงหน้าวัดบ้านเนิน รวมทั้งมีน้ำหลากผิวถนนบริเวณโค้ง S1 พื้นที่หมู่ 2 ต.บ้านเนิน นักท่องเที่ยวที่ขับผ่านและใช้เส้นทางขึ้น-ลงภูทับเบิกต้องระมัดระวังสูงสุด