xs
xsm
sm
md
lg

ล็อตใหญ่มาก! นรข.หนองคายสนธิกำลังยึดยาไอซ์ มูลค่า 238 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หนองคาย - นรข.หนองคายสนธิกำลังยึดยาไอซ์ 238 กิโลกรัม นำข้ามแม่น้ำโขงวางไว้ริมถนน ขณะที่ชาย 2 คนขับกระบะมารับเจอเจ้าหน้าที่ทิ้งรถทิ้งของหลบหนี คาดเตรียมนำเข้าพื้นที่ตอนใน มูลค่ากว่า 238 ล้านบาท

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 ต.ค. 60 ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขงเขตหนองคาย อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พลเรือตรี พิสิษฐ์ ทองดีเลิศ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (ผบ.นรข.), นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผบก.ภ.จ.หนองคาย, น.อ.นิยม พึ่งโต ผบ.นรข.เขตหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาไอซ์บรรจุในถุงชาภาษาจีน จำนวน 238 ห่อ น้ำหนักประมาณ 238 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 238 ล้านบาท และรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ แบบแค็บ สีเทา ทะเบียน บบ 2798 กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นทะเบียนปลอม

พลเรือตรี พิสิษฐ์ ทองดีเลิศ ผบ.นรข. กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ นรข. ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศทางด้านแม่น้ำโขง บริเวณบ้านตาดเสริม-บ้านน้ำไพร อ.สังคม จ.หนองคาย จึงสั่งการให้ น.อ.นิยม พึ่งโต ผบ.นรข.เขตหนองคาย จัดกำลังเจ้าหน้าที่ประสานหน่วยงานข้างเคียงไปดักซุ่ม กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 20 ต.ค. 60 พบเรือหางยาวหนึ่งลำ มีชายฉกรรจ์ 4 คนนั่งมาในเรือ ข้ามแม่น้ำโขงมาจอดเทียบท่า

ไม่นานนักชายทั้งหมดได้ช่วยกันแบกกระสอบปุ๋ย 6 ถุงมาวางไว้ริมถนนสังคม-เชียงคาน บริเวณหลัก กม.ที่ 92 หลังจากยืนรออยู่ไม่นานก็มีรถกระบะคันดังกล่าวขับเข้ามาจอด แล้วมีชาย 2 คนลงรถมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม กลุ่มชายทั้งหมดพากันแตกกระเจิงวิ่งหนีไป


เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ และพบว่าภายในกระสอบปุ๋ยที่วางไว้ทั้ง 6 กระสอบ มีถุงพิมพ์ลายคล้ายใบชาจีน แต่เมื่อเปิดออกดูพบว่าเป็นยาไอซ์ทั้งหมดจึงได้ตรวจยึดไว้ คาดว่ายาไอซ์ทั้งหมดนี้จะถูกนำเข้าไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศ มีมูลค่าประมาณ กิโลกรัมละ 1 ล้านบาท หรือราว 238 ล้านบาท หลังจากนั้นจะได้นำของกลางส่ง สภ.สังคมดำเนินการตามกฎหมาย

นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคอีสานต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดได้เปลี่ยนเส้นทางจากภาคเหนือมายังภาคอีสาน ซึ่งได้กำชับให้ฝ่ายปกครองประสานงานกับกำลังทหาร ตำรวจ และขอความร่วมมือประชาชนในชุมชนช่วยสอดส่องดูแลพื้นที่ร่วมกันอีกทางหนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้มีการระบาดของยาเสพติดมากขึ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น