นครพนม - อากาศหนาวส่งผลดีต่อพืชผักที่ชาวนครพนมพากันปลูกริมแม่น้ำโขงงอกงามเต็มที่ อีกทั้งเทศกาลกินเจปีนี้ขายได้ราคาสูงเกือบเท่าตัวเพราะผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย หลายพื้นที่น้ำท่วม สวนผักส่วนใหญ่จมน้ำเน่าหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ถึงแม้สถานการณ์ภัยแล้งจะมีความเสี่ยงจากผลกระทบขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร แต่สำหรับพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง เขต ต.บ้านกลาง ต.ดงขวาง อ.เมือง และ ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ยังถือเป็นพื้นที่ทำเลทองเนื่องจากติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขง
ทำให้มีน้ำเพียงพอในการทำการเกษตร สร้างรายได้เสริมในช่วงหน้าแล้งหลังฤดูการทำนาปี ซึ่งในช่วงหน้าแล้งทุกปีเกษตรกรริมฝั่งแม่น้ำโขงส่วนใหญ่จะหันไปทำอาชีพปลูกพืชผักการเกษตรขายหน้าแล้ง
โดยเฉพาะช่วงนี้ใกล้เทศกาลกินเจ ระหว่างวันที่ 20-28 ตุลาคม 2560 ยาวไปถึงปีใหม่ตรุษจีน จะมีพ่อค้า แม่ค้ามาสั่งจองซื้อผักไปขายจำนวนมาก
ส่วนใหญ่จะเป็น คะน้า สลัด ต้นหอม รวมถึงพืชผักสวนครัวทั่วไป ทำให้ช่วงนี้มีราคาแพงขึ้นจากปกติประมาณ 40-50 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากปีนี้พื้นที่ภาคอีสานได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม อีกทั้งสภาพอากาศแปรปรวนทำให้ปลูกยาก ผลผลิตมีน้อย และมีราคาแพงกว่าทุกปี เช่น คะน้า มีราคาสูง ตกกิโลกรัมละประมาณ 30-35 บาท จากปกติราคากิโลกรัมละ 20-25 บาท ผักสลัด กิโลกรัมละประมาณ 30 บาท จากปกติกิโลกรัมละ 15-20 บาท
ส่วนต้นหอม กิโลกรัมละประมาณ 40 บาท จากปกติกิโลกรัมละประมาณ 20 บาท ยิ่งอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจ ปีใหม่ และตรุษจีนขายดีมาก มีพ่อค้า แม่ค้ามาสั่งซื้อแบบไม่อั้น เพื่อนำไปขายต่อทั่วภาคอีสาน
โดยเฉพาะในช่วงนี้สภาพอากาศเริ่มหนาว อุณหภูมิลดลงต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อเกษตรกรในพื้นที่ อ.เมือง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่มีการเพาะปลูกปีละกว่า 10,000 ไร่ตลอดแนวริมแม่น้ำโขง ยิ่งในช่วงฤดูหนาวเกษตรกรจะมีการปรับพื้นที่ริมแม่น้ำโขงทำการเกษตร ปลูกพืชผักสวนครัว
ทำให้ในช่วงเทศกาลกินเจ เทศกาลปีใหม่ ยาวไปถึงเทศกาลตรุษจีนจะมีรายได้ เงินหมุนเวียนสะพัดจากการขายผลผลิตพืชผักการเกษตร บางรายสามารถสร้างรายได้เดือนละเป็นแสนบาท ยิ่งช่วงที่อากาศหนาวเย็นทำให้พืชผักการเกษตรโตเร็ว