กาฬสินธุ์ - พบคุณยายชาวอำเภอยางตลาด วัย 69 ปี พลิกผืนนาจากที่เคยปลูกข้าวนาปรัง พาลูกหลานรวมกลุ่มปลูกถั่วลิสงที่อายุสั้น ใช้น้ำน้อย หวังรายได้ดีกว่าปลูกข้าวนาปรังที่ต้นทุนสูงและขาดทุนซ้ำซาก
จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพในฤดูแล้งที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่าชาวบ้านมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำเกษตรมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ใต้เขื่อนลำปาว ที่แต่เดิมเคยปลูกข้าวนาปรัง ก็หันมาปลูกพืชชนิดอื่นกันมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงขาดทุนจากปัญหาภัยแล้ง ค่าจ้างแรงงานสูง และราคารับซื้อ
นอกจากนี้ยังมีตัวแปรอย่างสภาพอากาศที่มีทั้งหนาว และร้อนจัดในกลางวัน เป็นสภาพอากาศที่แปรปรวนที่ส่งผลกระทบต่อพืชที่ลงทุนปลูกโดยเฉพาะข้าวนาปรังที่จำต้องงดปลูกและปรับเปลี่ยนปลูกพืชชนิดอื่นที่ลงทุนน้อยทดแทน
นางพันปี ภูมิ่งเดือน อายุ 69 ปี บ้านเลขที่ 42 หมู่ 12 บ้านนาสมบูรณ์ ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พื้นที่นาอยู่ในเขตใช้น้ำชลประทานลำปาว ทุกปีที่ผ่านมาเมื่อถึงฤดูแล้งจะพาลูกหลานปลูกข้าวนาปรัง บางคนปลูกพืชผักสวนครัว แต่เนื่องจากที่ผ่านมาประสบปัญหาน้ำไม่เพียงพอ ประกอบกับต้นทุนการทำนาที่สูงขึ้น
ขณะที่ราคารับซื้อตกต่ำ ทำให้ขาดทุนซ้ำซาก พอถึงฤดูแล้งปีนี้ จากการแนะนำของทางรัฐบาลในการลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง และปลูกพืชทางเลือกใหม่ จึงได้พาลูกหลานหันมาปลูกถั่วลิสงเป็นครั้งแรก ใช้พื้นที่นา 3 ไร่ช่วยกันทำแปลงปลูก ช่วยกันดูแล ทำให้ประหยัดค่าจ้างแรงงาน ขณะที่ตลาดการรับซื้อก็กว้างขวาง
และสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง โดยซื้อขายฝักถั่วลิสงกันที่ กก.ละ 20 บาท คาดว่าจะได้กำไรดีกว่าข้าวเปลือก ซึ่งรับซื้อเพียง กก.ละ 6-8 บาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในการพาลูกหลานรวมตัวกันปลูกถั่วลิสงในฤดูแล้งนี้ นอกจากจะทำการปลูกพืชทางเลือกใหม่แทนการทำนาปรัง ที่อายุสั้น ใช้น้ำน้อย ราคาดีแล้ว ถั่วลิสงยังดูแลง่าย ไม่มีศัตรูรบกวน เป็นพืชบำรุงดิน ลดการใช้ปุ๋ยเคมีในการเพาะปลูกพืชในฤดูกาลต่อไป ที่สำคัญยังเป็นการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมแรงกายแรงใจ เชื่อมความรักความสัมพันธ์ในครอบครัวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย