อุบลราชธานี - สองสาวผู้ต้องหาเรียกรับเงินทอนโครงการ 9101 ยังปฏิเสธ อ้างแต่ว่าต้องการเอาไปใช้ในโครงการอื่นฯ ด้าน ป.ป.ช.เดินหน้ารวบรวมหลักฐานขยายผลถึงกรรมการคนอื่น
จากกรณีเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามทุจริตในภาครัฐ บุกรวบตัวสองสาวอำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เรียกรับเงินทอนโครงการ 9101 สารภาพเรียกรับจริง แต่ไม่ได้นำไปใช้ส่วนตัว ต้องการเอาไปใช้ทำในโครงการอื่น เบื้องต้นถูกแจ้ง 2 ข้อหาหนัก ทั้งเรียกรับสินบนและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ความคืบหน้า ล่าสุดวันนี้ (5 ต.ค.) พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี นำตัวนางรัชนี คมขำ อายุ 38 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกินเพล อ.วารินชำราบ พร้อมด้วย น.ส.อมรรัตน์ ขยายวงศ์ อายุ 33 ปี แพทย์ประจำตำบล ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาข้อหาเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับประโยชน์ตอบแทนโดยมิชอบมาสอบปากคำ ซึ่งผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าเป็นเงินที่คณะกรรมการโครงการ 9101 ของตำบลได้ตกลงจะนำไปใช้ในกิจการอื่นใน 9 หมู่บ้านของตำบล ไม่ได้เอาไปใช้ส่วนตัวแต่อย่างใด พร้อมรับว่าอาจเป็นความผิด แต่ขัดเสียงส่วนใหญ่ของคณะกรรมการไม่ได้
พนักงานสอบสวนได้บันทึกการให้ปากคำ และจะได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนไปฝากขังต่อศาลจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนสรุปสำนวนการจับกุมส่งมอบต่อไปยัง ป.ป.ท.เขต 3 นครราชสีมา ดำเนินการต่อผู้ต้องหาทั้งสองต่อไป
ด้านนายศุภชัย ไชยหงษ์ ผอ.ป.ป.ช.จังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า แม้เรื่องดังกล่าวจะอยู่ในอำนาจของ ปปท.ในการสอบสวนดำเนินคดี แต่ ปปช.จะช่วยรวบรวมพยานหลักฐาน โดยได้ทำหนังสือขอคำสั่งแต่งตั้งกรรมการโครงการ 9101 ตามรอยพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาเกษตรที่ยั่งยืนตำบลหนองกินเพล อ.วารินชำราบ เพื่อนำรายชื่อมาตรวจสอบมีใครเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง
รวมทั้งส่งมอบหลักฐานทั้งหมดที่ได้รับมาจากผู้ร้องให้ ปปท.ไปขยายผลเอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
นายศุภชัย ยังเปิดเผยอีกว่า สำหรับโครงการ 9101 ตามรอยพ่อ ภายใต้ร่มพระบารมีเพื่อการพัฒนาเกษตรที่ยั่งยืนของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งได้รับการแจ้งเบาะแสจะมีการทุจริตอีก 4-5 เรื่อง โดยเป็นลักษณะจัดซื้อวัสดุแพงกว่าราคาท้องตลาด หรือส่งมอบวัสดุที่นำมาใช้ในโครงการไม่ครบถ้วน ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเป็นจริงตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสมาจริงหรือไม่
ส่วนเงินที่เกินมากว่า 370,000 บาท ซึ่งผู้รับเหมาโครงการนี้ ได้แสดงเจตนาชัดเจนตั้งแต่ต้นในตอนเข้าร่วมประมูล เมื่อกลางเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา และนำเรื่องมาแจ้งให้ ปปช.ทราบ เพราะไม่ต้องการรับเอาไว้ แต่ถูกบังคับให้ทำตามคำสั่งของคณะกรรมการของโครงการ ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับการว่าจ้างในโครงการ หลังคดีสิ้นสุดเงินจำนวนดังกล่าว ก็กลับคืนมาเป็นของแผ่นดินต่อไป
ซึ่งโครงการนี้ ก่อนเริ่มโครงการ ปปช.ได้ตระเวนชี้แจงทำความเข้าใจครอบคลุมทั้ง 25 อำเภอ ส่วนของตำบลหนองกินเพลที่มีการจับกุม ก่อนมีเรื่องก็ได้เบาะแสและได้เข้าชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะกรรมการแล้ว แต่ก็ยังมีการเรียกรับจนนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว
