เชียงใหม่ - บรรยากาศร้านค้า ประชารัฐเชียงใหม่ เปิดวันแรก ประชาชนใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซื้อสินค้าสุดคึกคัก บางรายซื้อจำนวนมากเพิ่มเงินไม่กี่บาท ขณะที่ภาครัฐขยายเวลาให้ผู้มีบัตรสามารถสมทบยอดเงิน ในบัตรเดือนตุลาคม ใช้ได้จนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน คาด เชียงใหม่ มีเงินสะพัดมากถึง 71 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่า วันนี้ (1 ต.ค.) เป็นวันแรกที่ประชาชนชาวเชียงใหม่ ที่มีรายได้น้อย ที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พากันทยอยไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านค้าประชารัฐ ที่เข้าร่วมโครงการ บริเวณร้านจงกำไร ย่านชุมชนบ้านท่อเมืองลัง ในตัวเมืองเชียงใหม่ กันอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่เลือกซื้อสินค้าที่จำเป็น ทั้งข้าวสาร น้ำมันพืช ไข่ไก่ สินค้าจำเป็น บางรายใช้จ่ายเกิน 300 บาท แต่ได้จ่ายเงินสดเพิ่มอีกไม่กี่บาท ทำให้ยิ้มอย่างมีความสุข ร้านค้าหลายแห่งที่เข้าร่วมโครงการคึกคักตลอดทั้งวัน
นางจันทร์ฉาย บานใบ เจ้าของร้านจงกำไร กล่าวว่า ขอบคุณภาครัฐที่มอบโครงการดีๆ ให้กับประชาชน ทำให้ร้านค้าขายดีมากขึ้น เพราะหากไม่มีโครงการนี้ แม้ช่วงนี้จะเป็นช่วงต้นเดือน ก็ไม่มีคนมาจับจ่ายใช้สอยมากนัก และไม่คึกคักเหมือนอย่างวันนี้
ด้าน นางนิยดา หมื่นอนันต์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจดูการซื้อสินค้า ร้านค้าชุมชนวัดเกตุและร้านจงกำไร ชุมชนบ้านท่อเมืองลัง ในตัวเมืองเชียงใหม่ ในการใช้บัตรคนจน บอกว่า บรรยากาศคึกคัก ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่ มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ จำนวน 517 แห่ง จากที่ตั้งเป้าไว้กว่า 600 แห่ง บางพื้นที่หากร้านค้าอยู่ไกล ก็จะใช้รถโมบายนำสินค้าเข้าไปให้บริการ ส่วนการใช้เครื่องอีดีซีในการตรวจสอบบัตร ก็ไม่มีปัญหา ที่พบคือ ห้างค้าปลีกบางแห่งในเชียงใหม่ มีร้านค้าไปซื้อน้ำมันพืช กักตุนไว้ ทำให้บางช่วงขาดตลาด
นางสัญญา ไชยเชียงของ คลังจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มาลงทะเบียนมากกว่า 3 แสนคน ขณะนี้มารับบัตรแล้วกว่า 180,000 คน และเดือนแรกประชาชน อาจจะยังมารับบัตรล่าช้า ทางกรมบัญชีกลาง ได้ขยายเวลาให้กับผู้ใช้บัตร ในเดือนตุลาคม หากมียอดเงินค้าง สามารถนำไปสมทบใช้ได้ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ เพียงเดือนเดียวเท่านั้น เนื่องจากยังใหม่อยู่ ทั้งนี้ เชียงใหม่จะมีเงินสะพัดเดือนละ 71 ล้านบาท
นางกัญชัช เจริญผล ผู้บริหารธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ในส่วนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ลงทะเบียนผ่านธนาคารกรุงไทย มีจำนวนมากกว่า 5 หมื่นราย ขณะนี้มีประชาชนมารับบัตรเพียงแค่ 22,000 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 41 เท่านั้น ซึ่งประชาชนสามารถมารับบัตร ได้ตามสาขาของแต่ละอำเภอ บางรายอาจจะยังไม่ทราบ
อย่างไรก็ตาม เครื่องอีดีซี ที่ใช้เช็กยอดเงินของผู้ใช้บัตรขณะนี้ติดตั้งตามร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการไปแล้ว 138 เครื่อง จากทั้งหมด 205 เครื่อง ซึ่งจะสามารถติดตั้งครบทั้งหมดภายในวันที่ 1ต.ค. 60