น่าน - ประชาคมจับมือฮักเมืองน่าน และ สช.เสริมพลังจิตอาสา ประชา + รัฐ หนุนเครือข่ายภาคประชาสังคม 15 อำเภอ สร้างชุมชนเข้มแข็ง ช่วยเหลือผู้ยากไร้ และแผนภัยพิบัติ
ศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน กับมูลนิธิฮักเมืองน่าน ร่วมกันจัดแถลงข่าวผลการดำเนินงาน 4 เดือน โครงการพัฒนากลไกสนับสนุนเครือข่ายจิตอาสาประชารัฐจังหวัดน่าน โดยมีภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน ร่วมรับฟังการแถลงข่าว และให้ความคิดเห็นอย่างหลากหลาย ณ ห้องประชุมสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดน่าน
สำหรับโครงการพัฒนากลไกสนับสนุนเครือข่ายจิตอาสาประชารัฐจังหวัดน่านได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ หรือ สช. ซึ่งมีเจตนารมณ์ที่จะเสริมสร้างสังคมสุขภาวะ โดยให้ความสำคัญของการรวมคนที่ทำงานจิตอาสา และมุ่งหวังให้ประชาชนและชุมชนสามารถช่วยเหลือ จัดการ และพึ่งพิงกันได้ ซึ่งเน้นคนในระดับพื้นที่ให้ร่วมคิดร่วมทำ และใช้ฐานข้อมูลเพื่อจัดการตนเอง จึงได้จัดทำโครงการดังกล่าวขึ้นทั่วทุกจังหวัดของทุกภาค โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
นางสุภาพ สิริบรรสพ เลขานุการศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน กล่าวว่า ศูนย์ประสานงานประชาคมจังหวัดน่าน และมูลนิธิฮักเมืองน่าน ในฐานะแกนนำภาคีเครือข่ายที่มีการดำเนินงานด้านประชาสังคมมาอย่างยาวนาน ได้ร่วมกันดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อหนุนเสริมพลังภาคีเครือข่ายจิตอาสา และเชื่อมต่อความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งรัฐและเอกชน
โดยในช่วง 4 เดือนได้เริ่มดำเนินการรวบรวมคนทำงานจิตอาสาในระดับพื้นที่จากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทหน้าที่ตามกฎหมาย ภาคท้องถิ่นที่เป็นหน่วยงานใกล้ชิด ภาคเอกชนที่มีความคล่องตัว และชุมชนภาคประชาสังคมอื่นๆ ซึ่งใกล้ชิดกับปัญหาและแนวทางพัฒนา โดยใช้หลักจิตอาสา ใจ+ปัญญา+เวลา ซึ่งเป็นกลุ่มจิตอาสาที่ถูกรวบรวมมาเป็นเครือข่ายและกลไกระดับจังหวัดและอำเภอ ทั้ง 15 อำเภอ
เพื่อร่วมกันออกแบบกระบวนการจัดการและหนุนเสริมกลไกในการขับเคลื่อน ซึ่งไม่ใช่เป็นการเพิ่มงานให้กับหน่วยงานภาครัฐ แต่จะกลายเป็นผู้ที่มาช่วยทำงาน ช่วยเติมเต็มและหนุนเสริมให้การทำงานเกิดผลประโยชน์ต่อชุมชนมากที่สุด ซึ่งทำให้ทั้งชุมชน คนทำงานจิตอาสา และหน่วยงานรัฐได้ประโยชน์ร่วมกัน และกลายเป็นเครือข่ายเพื่อนร่วมทำงานด้วย
สำหรับห้วงดำเนินการ 4 เดือน จิตอาสาประชารัฐจังหวัดน่าน และกลไก 15 อำเภอ ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ตรวจทานข้อมูล 2 ด้าน คือ กลุ่มผู้ยากไร้กลุ่มเปราะบางทางสังคม และพื้นที่ภัยพิบัติ เพื่อให้ฐานข้อมูลทั้งสองด้านมีความเป็นปัจจุบันมากที่สุด รวมถึงการสำรวจผู้ตกหล่นหรือยังได้รับความช่วยเหลือไม่เพียงพอ เพื่อวางแผนหรือประสานความช่วยเหลือต่อไป
ดร.มาโนชญ์ ชายครอง นักวิชาการอิสระด้านพัฒนาสังคม และในฐานะคนทำงานจิตอาสาของโครงการฯ เปิดเผยว่า จากการสำรวจและตรวจทานข้อมูล พบว่า จังหวัดน่าน ข้อมูลผู้ยากไร้ จากประชาชนประมาณ 4 แสนกว่าคน มีประชาชนที่ยากลำบากและยังได้รับการช่วยเหลือที่ไม่เพียงพอ รวมถึงกลุ่มผู้ยากไร้ที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือเลย ซึ่งหมายถึงกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงโอกาสขอรับความช่วยเหลือได้ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ตกสำรวจ เช่น กลุ่มผู้ไร้สัญชาติ ซึ่งมีทั้งหมดรวมจำนวน 2,799 ราย
ส่วนข้อมูลด้านพื้นที่ภัยพิบัติ พบว่าผลกระทบจากอุทกภัย ดินโคลนถล่ม ภัยแล้งและหมอกควันไฟป่า มีผลกระทบต่อประชาชนทั้ง 15 อำเภอ ซึ่งในทุกพื้นที่มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและท้องถิ่นดำเนินงานตามภารกิจอยู่แล้ว เป็นลักษณะแยกส่วนดำเนินงาน และยังขาดการมีส่วนร่วมคิดร่วมทำของชุมชน
โครงการนี้จึงทำหน้าที่ในการนำต้นทุนทางสังคมและชุมชน เพื่อให้เกิดการทำแผนร่วมกันและทำงานร่วมกัน ในลักษณะประชา+รัฐ ซึ่งในช่วง 4 เดือน นอกจากได้ฐานข้อมูลทั้งสองด้านที่เป็นปัจจุบันแล้ว ยังได้เชื่อมเครือข่ายคนทำงานจิตอาสา ได้แผนการพัฒนาระดับอำเภอ ได้กองทุนจิตอาสาระดับจังหวัด และยังได้ขยายผลการสร้างและเชื่อมเครือข่ายจิตอาสารุ่นใหม่ ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้พิการ กลุ่มผู้ติดเชื้อ กลุ่มอดีตผู้ต้องขัง กลุ่มเด็กและเยาวชน ที่เกิดขึ้นในโครงการนี้
โดยจิตอาสาประชารัฐจังหวัดน่านจะยึดปัญหาและความต้องการของคนน่านเป็นหลัก ใช้ฐานข้อมูลและคนทำงานจิตอาสาเพื่อสังคม รวมทั้งองค์กรเครือข่ายต่างๆ ซึ่งถือเป็นต้นทุน ร่วมกันสร้างชุมชนที่เข้มแข็ง สามารถพึ่งพาและจัดการตนเองได้ โดยคนน่านจะไม่ทอดทิ้งกันและจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง