มหาสารคาม - ทหารบุกรวบแก๊งเงินกู้รายใหญ่เมืองมหาสารคาม หลังจากชาวบ้านร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมปล่อยเงินกู้เก็บดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด หลายรายต้องส่งดอกเบี้ยวันละ 400 บาท บางรายส่งดอกถึงวันละเกือบ 2,000 บาท มีพฤติกรรมข่มขู่ ยึดของกลางเป็นนามบัตรปล่อยเงินกู้ 3 มัด และกระดาษรายชื่อลูกค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา นายฉลอง พึ่งโคกสูง ป้องกันจังหวัดมหาสารคาม นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยทหารกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมหาสารคาม และกำลังพลจากกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมหาสารคาม เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 465 ซอยอุดมสุข ต.แวงน่าง อ.เมืองมหาสารคาม เพื่อตรวจสอบบุคคลให้กู้เงินนอกระบบ โดยเก็บดอกเบี้ยสูงเกินกฎหมายกำหนดและมีการข่มขู่ลูกหนี้
แต่เมื่อกลุ่มเป้าหมายเห็นรถยนต์เจ้าหน้าที่ต่างวิ่งหนีเข้าไปในป่าบริเวณหลังบ้าน โดยสามารถติดตามควบคุมตัวมาได้ทั้งหมดรวม 5 คน
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบหลักฐานเชื่อมโยงบุคคลปล่อยเงินกู้นอกระบบเพียงคนเดียว ได้แก่ นายอำนาจ ยังนึก อายุ 30 ปี ที่อยู่ 9/1 หมู่ 4 ต.วังหิน อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ตรวจค้นภายในบ้านพักและรถยนต์พบของกลางเงินสด 11,500 บาท นามบัตรปล่อยเงินกู้ 3 มัด กระดาษรายชื่อลูกค้า 1 แผ่น
จากนั้นได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม และปลัดอำเภอเมืองมหาสารคามร่วมตรวจสอบ
เบื้องต้นนายอำนาจรับว่าได้ปล่อยเงินกู้และเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินที่กฎหมายกำหนด แต่ไม่เคยข่มขู่ลูกหนี้ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด (ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 มาตรา 3) และประกอบธุรกิจให้สินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต” และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายฉลอง พึ่งโคกสูง ป้องกันจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีชาวบ้านหลายรายเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ขอความช่วยเหลือกรณีได้รับความเดือดร้อนจากการเป็นหนี้นอกระบบรายวัน ต้องส่งดอกเบี้ยวันละ 400 บาท บางรายส่งวันละ 1,950 บาท ถ้าบางวันไม่มีเงินพอส่งก็จะถูกข่มขู่ต่อว่าทั้งทางวาจา และกิริยา
จังหวัดมหาสารคาม กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดน จึงสั่งการให้จัดชุดเฉพาะกิจดำเนินการสืบสวน พบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ดำเนินการเก็บเงินกู้ในหลายพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม โดยจะเคลื่อนย้ายไปยังอำเภอต่างๆ เช่น อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย อำเภอวาปีปทุม และอำเภอเมืองมหาสารคาม
ล่าสุดได้เคลื่อนย้ายมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักหลังดังกล่าวในพื้นที่อำเภอเมืองมหาสารคาม จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจับกุมส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป