xs
xsm
sm
md
lg

ทหารนำผู้เสียหายเปิดสลิปโอนเงินแฉส่วยตำรวจนอกรีต 3 หมื่นต่อเดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สระแก้ว - ทหารนำผู้เสียหายเปิดสลิปโอนเงิน แฉส่วยตำรวจนอกรีตเดือนละ 3 หมื่น หลังตำรวจปล่อยตัวโดยไม่แจ้งข้อกล่าวหาใดๆ อ้างไม่เข้าข้อกฎหมาย

วันนี้ (15 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 13 อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เข้าจับกุมรถกระบะบรรทุกขนกระเทียมลักลอบจากประเทศกัมพูชา โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้ 2 นาย และพลเรือนซึ่งอ้างว่า เป็นตำรวจบ้านอีกหนึ่งนาย อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งภายหลังทหารพรานได้ทำการสอบสวนตำรวจทั้ง 2 นาย อ้างว่าได้รับแจ้งว่าจะมีการขนไม้จึงติดตาม และตรวจพบเป็นรถกระเทียมหนีภาษีผิดกฎหมาย อยู่ระหว่างประสานศุลกากรมาดำเนินการ ขณะที่ทางทหารพราน ระบุว่า เป็นลักษณะการกรรโชกทรัพย์ จึงส่งตัวทั้ง 3 คน ให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.คลองหาด ล่าสุด พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวทั้ง 3 คนไปโดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใดนั้น

ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากผู้ค้าผักรายหนึ่ง ซึ่งค้าขายในพื้นที่ตลาดเขาดิน บริเวณใกล้เคียง สอยดาว จ.จันทบุรี และส่งตลาดในกรุงเทพฯ ออกมาเปิดเผยข้อมูลการเรียกรับ และจ่ายส่วยให้แก่แก๊งตำรวจนอกรีต ว่า ถูกชุดตำรวจกลุ่มนี้เก็บส่วยอยู่เป็นประจำ เพื่อเปิดทางให้แม่ค้าที่นำสินค้าต้องห้าม เช่น กระเทียม สามารถนำออกมาตามเส้นทางธรรมชาติได้ โดยมีเจ๊รายหนึ่งซึ่งเป็นเครือข่ายรถเป็นผู้จ่ายเงิน โดยให้ตนเองเป็นผู้โอนเงินให้แก่ตำรวจเป็นรายเดือน เดือนละ 30,000 บาท พร้อมทั้งนำสลิปการโอนเงินมาแสดงให้ดูด้วย

“ถ้าคนไหนไม่ยอมจ่ายมันก็จะโทรศัพท์เรียกศุลกากรมาจับกุม หนูขายผักที่ตลาดทรัพย์ตารี ก็มารับกระเทียมจากเขมรไปขายทีละ 5-10 กระสอบ ซึ่งทหารก็อนุโลมให้เพราะไม่มาก แต่ก็ถูกตำรวจกลุ่มนี้ดักจับ และแล้วเรียกเงิน จนมีการเคลียร์กับแม่ค้าหลายๆ คน และมีการโอนให้เขาทุกเดือนมาหลายปีแล้ว ซึ่งเดือนนี้เพิ่งจะเลยมาแค่วันสองวันเอง” แม่ค้ารายนี้ระบุ

ทั้งนี้ เธอได้นำภาพสลิปจากโทรศัพท์มาเปิดให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งปรากฏรายชื่อผู้รับโอน และยอดเงินการโอน 30,000 บาทจริง พร้อมทั้งนำรูปของผู้ที่โอนเงินไปให้ โดยผ่านบัญชีของผู้อื่น นำมาชี้ให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย และยังอยากให้เจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ ป.ป.ช.เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของกลุ่มตำรวจกลุ่มนี้ด้วย เนื่องจากมีผู้ประกอบการที่ต้องจ่ายส่วยในลักษณะนี้ในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 4-5 ราย ซึ่งในการให้ข้อมูลดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ทหารพรานในพื้นที่ร่วมรับฟังด้วย

ขณะที่ นายนรินทร์ สีดา อายุ 30 ปี ผู้ขับรถขนกระเทียม และเจ้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ต่อ สภ.คลองหาด ชาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี แจ้งต่อผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้รู้สึกหวาดผวามาก เนื่องจากกลัวไม่ได้รับความปลอดภัย หลังตำรวจคลองหาด ปล่อยตัวตำรวจป่าไม้ 2 นาย และพลเรือนอีก 1 คนไป ทั้งๆ ที่ตนเองได้ไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีในข้อหาขู่กรรโชกทรัพย์ นอกจากนั้น ยังมีความพยายามที่จะให้ตนเองถอนแจ้งความเรื่องนี้อีกด้วย

นายนรินทร์ กล่าวว่า เหตุการณ์เมื่อวันก่อน ขณะที่ตนเองกำลังขับรถไปตามถนนสายคลองหาด-วัฒนานคร เมื่อมาถึงบ้านเบญจขร ก็ได้มีรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ 4 ประตู สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับตามหลังมา แล้วขับปาดหน้า พร้อมกับมีชายในรถได้ลงมาบอกให้ตนเองเปิดประตูรถ แต่ตนเองไม่กล้าเปิด จึงได้ลดกระจกเล็กน้อย ชายคนดังกล่าวได้สั่งให้ส่งโทรศัพท์ 2 เครื่องให้แก่เขา ด้วยความกลัวจึงส่งโทรศัพท์ให้ไป เพราะเขาพยายามจะดึงประตูรถให้เปิดออก

“ทีแรกคิดว่าทั้ง 3 คน จะมาดักปล้น เนื่องจากทั้ง 3 คนไม่ได้แต่งเครื่องแบบตำรวจ ไม่มีการพกบัตรตำรวจ และเมื่อถามว่า มาจากหน่วยไหนอย่างไรก็ไม่ยอมบอก จนกระทั่งทหารพรานเข้ามา จึงแสดงตัวว่า เป็นตำรวจ และเอาเสื้อคลุมสอบสวนกลางมาใส่ ทั้งนี้ ผมยังยืนยันที่จะไม่มีการถอนแจ้งความต่อไป” นายนรินทร์ ผู้เสียหายกล่าว

ทางด้าน พ.ต.ท.ธงชัย ลบพื้น รอง ผกก.สอบสวน สภ.คลองหาด ระบุว่า สาเหตุที่ไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาตำรวจทั้ง 2 นาย เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ระบุว่า มีการเรียกรับ หรือกรรโชกทรัพย์ เพียงอ้างว่า ปฏิบัติหน้าที่ จึงไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหาว่าได้ อีกทั้งผู้เสียหายที่มาแจ้งความไว้ก็ไม่ได้ระบุว่า มีการกรรโชกทรัพย์ หรือเรียกรับเกิดขึ้น เป็นแค่การควบคุมตัวและยึดโทรศัพท์ไว้ ทั้งนี้ หากฝ่ายทหารมีผู้เสียหายรายใหม่พร้อมหลักฐานก็สามารถนำมาแจ้งความและดำเนินคดีได้เช่นกัน ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นการช่วยเหลือตำรวจด้วยกัน แต่เป็นการพิจารณาตามหลักเกณฑ์กฎหมายทั้งสิ้น

กำลังโหลดความคิดเห็น