บุรีรัมย์ - หนุ่มอดีตทหารเรือชาว อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ หายออกจากบ้านพร้อมรถจักรยานยนต์นาน 5 วัน ญาติเป็นห่วงแจ้งความคนหายไว้ ก่อนพบกลายเป็นศพปริศนาลอยอืดเน่าเปื่อยในหนองน้ำ ขณะชาวบ้านลืออาถรรพ์เพราะมีคนจมน้ำเสียชีวิตในช่วงเดือนเดียวกันทุกปี
วันนี้ (5 ก.ย.) ร.ต.อ.ปรีชาศักดิ์ ศักยปรีชา รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพคนจมน้ำเสียชีวิตอยู่ในหนองน้ำบ้านนาล้อม ม.13 ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จึงพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านด่าน และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมสถานบุรีรัมย์ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากกำลังยืนมุงดูศพชายไม่ทราบชื่อ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในหนองน้ำ ห่างจากฝายน้ำล้นประมาณ 500 เมตร ในสภาพขึ้นอืดเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว ต่อมา นางเสาวรี จรดรัมย์ อายุ 53 ปี ชาวบ้านบ้านบุ ม.12 ต.ปราสาท ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านด่าน ก่อนหน้านี้ ว่านายสุรศักดิ์ จรดรัมย์ หรือต้น อายุ 28 ปี ลูกชายได้หายออกจากบ้านพร้อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กข 1195 บุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา จึงได้รีบเดินทางมาดูว่าศพที่พบเป็นลูกชายของตนเองหรือไม่ ทันทีที่มาถึงและเห็นศพถึงกับร่ำไห้และยืนยันว่าเป็นลูกชายของตัวเองเพราะมีรอยสักอยู่บริเวณกลางหลัง และขา
นางเสาวรีเล่าว่า ลูกชายเคยเป็นอดีตทหารเรืออยู่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ประมาณ 2 ปี ก่อนปลดประจำการออกมาทำงานอยู่ที่บ้านกว่า 6 ปีแล้ว ซึ่งก่อนที่ลูกชายหายออกจากบ้านได้บอกกับภรรยาว่าจะไปเล่นบ้านเพื่อน จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์ออกไปตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.แล้วไม่เห็นกลับมาบ้านอีก ทั้งตนและลูกสะใภ้เป็นห่วงจึงบอกให้ลูกสะใภ้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านด่าน แต่ผ่านไป 5 วันยังไม่ได้ข่าวจากลูกชายเลย กระทั่งมีเพื่อนบ้านไปบอกว่าพบศพคนจมน้ำเสียชีวิตจึงรีบเดินทางมาดู ทันทีที่เห็นศพก็รู้ว่าเป็นลูกชายของตัวเองแน่นอน
ขณะที่ นายสำเรียง เจริญรัมย์ อายุ 40 ปี ชาวบ้าน บอกว่า ทันทีที่ชาวบ้านทราบต่างพากันมาดูและจับกลุ่มพูดคุยกันว่าเหตุการณ์ที่นายสุรศักดิ์จมน้ำเสียชีวิตในครั้งนี่น่าจะเกิดจากอาถรรพ์หรือสิ่งลี้ลับ เพราะที่ผ่านมามีคนจมน้ำเสียชีวิตในหนองน้ำดังกล่าว ในช่วงเดือนเดียวกันของทุกปี ซึ่งปีที่แล้วเป็น ด.ญ.วัย 14 ปี ที่มาถ่ายรูปกับเพื่อนแล้วเกิดลื่นจมน้ำเสียชีวิต ส่วนปีก่อนๆ นั้นมีคนที่มาตกเบ็ด หาปลาในหนองน้ำดังกล่าวเสียชีวิตเช่นกัน ชาวบ้านจึงลือกันปากต่อปากว่าน่าจะเกิดจากอาถรรพ์ ที่ทุกปีต้องมีคนสังเวยชีวิตในหนองน้ำดังกล่าว
จากนั้นหน่ายกู้ภัยฯ ได้ช่วยกันนำศพผู้เสียชีวิตขึ้นจากน้ำเพื่อส่งตรวจชันสูตรที่โรงพยาบาลเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง พร้อมทั้งได้ช่วยกันงมหาซากรถจักรยานยนต์ที่ผู้ตายขับขี่ก่อนจะหายตัวไป พบซากรถจมน้ำอยู่บริเวณฝายน้ำล้นห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 500 เมตร จึงสันนิษฐานว่าผู้ตายอาจขี่รถผ่านฝายน้ำล้นดังกล่าวแล้วเกิดเสียหายล้ม ทำให้ทั้งรถและคนจมน้ำ ก่อนที่กระแสน้ำจะพัดร่างผู้เสียชีวิตหายไปกระทั่งมีชาวบ้านไปพบศพลอยอืด หลังตรวจชันสูตรศพเรียบร้อยจะมอบให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป