วิศวกรถามกลับ"นี่หรือกระบวนการยุติธรรม" หลังอัยการสั่งฟ้องฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ยิงโจ๋ชลบุรีดับเหตุทะเลาะขับรถปาดหน้า

ศูนย์ข่าวศรีราชา - อัยการสั่งฟ้อง “วิศวกร” ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา กรณียิงปืนใส่วัยรุ่น จ.ชลบุรี หลังมีเหตุทะเลาะวิวาทเรื่องขับรถปาดหน้ากัน ส่วนวัยรุ่นคู่กรณี 4 ราย ถูกสั่งฟ้องในข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่บิดาผู้เสียชีวิตเผยทั้งน้ำตา ชีวิตที่เหลือต้องอยู่เพื่อให้ได้ความยุติธรรม ด้านอัยการจังหวัดชลบุรี เผยพิจารณาคดีตามหลักฐาน ไม่ใช่กระแสสังคม ส่วน “ลุงวิศวะ” ตั้งคำถามกลับ นี่หรือกระบวนการยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (4 ก.ย.) นายสุเทพ โภชน์สมบูรณ์ อายุ 50 หรือ ลุงวิศวะ ซึ่งก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายนวพล ผึ่งผาย หรือปอน อายุ 17 ปี จนเสียชีวิต จากกรณีถูกกลุ่มวัยรุ่นเข้ารุมทำร้าย ที่บริเวณสามแยกหน้าครกใหญ่ ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้เดินทางเข้าพบ นายชิงชัย โชติแสง อัยการจังหวัดชลบุรี ที่สำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี เพื่อรับทราบคำสั่งฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ขณะที่คู่กรณีซึ่งประกอบด้วย วัยรุ่น 4 คน ถูกตั้งข้อหาร่วมกันต่อสู้และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ

โดย นายสุเทพ พร้อมภรรยา ได้ให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาว่า รู้สึกเครียด แต่ก็จะหาแนวทางในการต่อสู้ต่อไป พร้อมฝากถามกลับมายังสังคมว่า การที่ตนเองปกป้องครอบครัวจากกลุ่มคนที่จะเข้ามาทำร้าย จนถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา แต่ฝ่ายคู่กรณีกลับถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกาย นี่หรือคือกระบวนการยุติธรรมของไทย และขอตั้งคำถามต่อสังคมต่อว่า ตนเองจะต้องรอให้กลุ่มวัยรุ่นเข้ามาทำร้ายครอบครัวจนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตก่อนใช่หรือไม่ จึงจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

ขณะที่ นายสหภาพ วงศ์ธรรมเจริญ อายุ 46 ปี บิดาของ นายนวพล ผู้เสียชีวิต ที่เดินทางมาพร้อมกับ นายวันชัย แสงสุวรรณ ทนายความ เพื่อเข้ารับฟังคำสั่งฟ้อง ได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า คดีนี้หากอัยการสั่งไม่ฟ้องตนเองก็จะฟ้องร้องเอง เพราะมีลูกเพียงคนเดียว และชีวิตที่เหลือก็ต้องอยู่ต่อไปเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม

ด้าน นายชิงชัย โชติแสง อัยการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า คดีนี้ทางสำนักงานอัยการจังหวัดชลบุรี ได้พิจารณาตามหลักฐาน ไม่ใช่กระแสสังคม โดยเป็นการพิจารณาแบบตรงไปตรงมา และไม่รู้จักกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งหลังจากนี้ ขอให้ทั้งสองฝ่ายหาพยานหลักฐานเพื่อเข้าสู่กระบวนการในชั้นศาลต่อไป

สำหรับกรณีดังกล่าว เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา โดย วิศวกรยิงเด็กหนุ่ม ม.4 วัย 17 ปี ที่บริเวณอ่างศิลา หลังจากมีปัญหาเรื่องการจอดรถกีดขวางทางกัน และทั้งสองฝ่ายให้การไม่ตรงกัน จนมีการเปิดกล้องหน้ารถของวิศวกรในช่วงที่มีการยิงกัน จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กัน อย่างมาก หลังจากนั้นยังมีการเรียกร้องให้เปิดคลิปตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ จึงเหตุให้ศาลสั่งดังกล่าว