xs
xsm
sm
md
lg

รักสะท้านโลกา..พ่อเฒ่าสัตหีบเลี้ยงเมียพิการ สัญญาจะรักมั่นจนวันตาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - พ่อเฒ่าสัตหีบวัย 74 สร้างตำนานรักสะท้านโลกา ทิ้งชีวิตที่เหลือดูแลภรรยาที่ป่วยอัมพฤกษ์ หวังปาฏิหาริย์จะมีผู้ใจบุญมาช่วยรักษาภรรยาให้เดินได้ ทั้งสองลั่นไม่ทอดทิ้งกัน ขอรักมั่นจนวันตาย

วันนี้ (8 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบ้านปูนหลังเล็กๆ ชั้นเดียวสภาพเก่าซอมซ่อ ในชุมชนหมู่ที่ 3 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้มีหญิงชายชราคู่หนึ่ง อาศัยครองรักกันมานานหลายสิบปี ทุกๆ วัน ผู้เป็นสามีที่ยังมีเรี่ยวแรงจะเข็นรถวีลแชร์มีภรรยาป่วยอัมพฤกษ์นั่งไปด้วย ในทุกๆ วันทั้งคู่จะพากันออกไปชมบรรยากาศภายนอก นั่งตากอากาศริมถนน บ้างผู้เป็นสามีก็จะนั่งป้อนข้าวภรรยา ทำให้ผู้พบเห็นต่างทึ่งในความรักของทั้งสองที่คงมั่น ไม่ทอดทิ้งกันแม้ยามเจ็บป่วย ภาพที่น่าประทับใจแฝงไปด้วยความน่าเวทนา ทำให้ชาวบ้านต่างแวะเวียนนำอาหารหวานคาวมามอบให้อยู่โดยตลอด

ต่อมา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบไปยังบ้านพักของคู่รักทั้งสอง ตั้งอยู่เลขที่ 35/21 ม.3 ส่วนตัวพ่อเฒ่าชื่อ นายกฤษณะ เทียมสุวรรณ อายุ 74 ปี อดีตภารโรง โรงเรียนสัตหีบ เขตฐานทัพเรือสัตหีบ และภรรยา คือ นางศรีรัตน์ เทียมสุวรรณ อายุ 60 ปี ป่วยโรคนิ่ว และอัมพฤกษ์ ใช้ชีวิตอยู่บนรถวีลแชร์ ซึ่งผู้เป็นสามีกำลังปรนนิบัติดูแล และป้อนข้าวให้แก่ภรรยา เป็นภาพที่น่าปลาบปลื้มใจยิ่งนัก

นายกฤษณะ เปิดเผยว่า ได้อยู่กินกับภรรยามานานกว่า 30 ปี เดิมทำอาชีพเป็นภารโรงหาเงินเลี้ยงดูภรรยา กระทั่งเมื่อประมาณ 20 ปี ชีวิตต้องพลิกผันเปลี่ยนไปเมื่อภรรยาต้องมาพบกับชะตากรรมที่เลวร้าย หมอตรวจพบเป็นนิ่วในถุงน้ำดี จึงได้เข้าทำการผ่าตัด ต่อมาไม่นาน ภรรยาก็เดินไม่ได้ พยายามกินยารักษาอยู่นานนับปี แต่ก็ดูเหมือนความฝันที่จะหายกลับมาเป็นปกติคงไม่มีจริง แต่ตนเองก็ไม่เคยย่อท้อ ไม่เคยทอดทิ้งภรรยา ดูแลกันอย่างสุดกำลัง หาเงินด้วยการเก็บของเก่าขาย

ประกอบกับมีผู้ใจบุญแวะเวียนกันนำอาหารมามอบให้ ทำให้ตนกับภรรยามีอาหารประทังชีวิต ทุกๆ วัน จะเข็นรถพาภรรยาออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ และเห็นโลกภายนอก เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีคุณหมอ หรือผู้ใจบุญที่ผ่านมาพบเห็นจะรับตัวภรรยาไปทำการรักษาให้หายกลับมาเดินได้เป็นปกติอีกครั้ง พร้อมให้คำมั่นจะรัก และดูแลภรรยาไปจนวันตาย

ด้าน นางศรีรัตน์ ก็ได้เผยถึงความหวังสุดท้ายในชีวิตที่อยากกลับมาเดินได้อีกครั้ง เพราะสงสารผู้เป็นสามีที่ต้องมาทนลำบาก เลี้ยงดูตนอย่างไม่เคยทิ้งห่างไปไหน อยากกลับมาเดินได้ เพื่อไปช่วยสามีทำงาน และพยุงชีวิตไม่ต้องให้ใครลำบากไปจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต



กำลังโหลดความคิดเห็น