ศรีสะเกษ - พ่อตั้งรางวัล 1 แสนให้ผู้แจ้งเบาะแสที่ซุกซ่อนตัว “ผอ.สาว อบต.ชำ” ศรีสะเกษ หายตัวไปอย่างลึกลับนาน 2 เดือนแต่ยังไร้วี่แววพบตัว ขณะสามีและญาติพี่น้องร่วมกับตำรวจยังคงลุยพลิกป่าค้นหาบริเวณข้างลำห้วยผึ้ง อ.น้ำยืน จ.อุบลฯ ที่ชาวบ้านระบุพบรถเก๋ง “ผอ.อ้อย” และชายชุดลายพราง 4 คนเสื้อเปื้อนเลือดเดินออกมาจากป่า
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผู้อำนวยการ (ผอ.) กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ หลังจากที่ไปส่งลูกสาววัย 8 ขวบที่โรงเรียนอนุบาลดำรงราชานุสรณ์ เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 11 ส.ค. ร.อ.ศุภชัย ภาโส หรือ “ผู้กองเหน่ง” นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา 4 ข้อหาและให้การปฏิเสธ ขณะที่บรรดาญาติพี่น้องและเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตามหา ผอ.อ้อยตามจุดที่ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่องทุกวัน ล่าสุดเดินทางไปที่ผานางอิง ติดกับชายแดน สปป.ลาวเพื่อนำโครงกระดูกปริศนามาตรวจพิสูจน์ว่าใช่ ผอ.อ้อยหรือไม่อย่างไร ตามข่าวที่ได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวันนี้ (3 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณป่าข้างลำห้วยผึ้ง เขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของ ผอ.อ้อย พร้อมด้วยญาติพี่น้องและเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กันทรลักษ์ ยังคงพากันลุยป่าติดตามค้นหาร่างของ ผอ.อ้อย ซึ่งในวันนี้เป็นวันที่ครบรอบ 2 เดือนที่ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งนายวิทยา เกษแก้ว สามีของ ผอ.อ้อย และญาติพี่น้องมั่นใจว่าบริเวณนี้จะเป็นที่ซุกซ่อนตัวของ ผอ.อ้อย
ทั้งนี้ เนื่องจากมีชาวบ้านที่พากันมาหาหนูบริเวณนี้พบว่ามีรถเก๋งคล้ายกับรถของ ผอ.อ้อยวิ่งมาจอดบริเวณนี้นานกว่า 3 ชั่วโมง และพบมีชาย 4 คนแต่งกายชุดลายพรางเสื้อเปื้อนเลือดเดินออกมาจากป่าบริเวณนี้ ดังนั้น สามีและบรรดาญาติพี่น้องจึงได้พากันมาตรวจค้นหาบริเวณนี้อย่างละเอียด แต่จากการตรวจค้นทั่วทั้งป่าก็ยังไม่พบเบาะแสร่องรอยของ ผอ.อ้อยแต่อย่างใด
นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี พ่อของ ผอ.อ้อย กล่าวว่า วันนี้ครบรอบ 2 เดือนแล้วที่ลูกสาวของตนหายตัวไป ตนและญาติพี่น้องออกค้นหาอ้อยลูกสาวของตนทุกวัน ล่าสุดเดินป่ากว่า 10 กิโลเมตรเข้าไปถึงผานางอิง ซึ่งทะลุเข้าไปในเขตประเทศลาวที่มีชาวลาวพบโครงกระดูกมนุษย์เพื่อตามหาลูกสาว ซึ่งยากลำบากเพียงใดตนก็ไม่ย่อท้อ แม้จะยังไม่พบตัวก็ยังจะตามหาอย่างต่อเนื่องไปจนกว่าจะพบ ตนอยากฝากไปถึงคนที่ทำกับลูกสาวของตนว่าบาปกรรมมีจริงและจะตามทันในเร็วๆ นี้
นายบุญเลิศกล่าวต่อว่า ขอประกาศว่าหากผู้ใดสามารถแจ้งเบาะแสให้ทราบว่า ผอ.อ้อย ลูกสาวของตนซุกซ่อนตัวอยู่ที่ใด และเมื่อผลการตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้วยืนยันชัดเจนว่าเป็นลูกสาวของตนที่หายไปจริง จะจ่ายเงินรางวัลให้ทันที 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) โดยผู้ที่ทราบเบาะแสให้โทรศัพท์แจ้งตนได้ตลอดเวลาที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-0796-4107 ซึ่งตนจะทำทุกวิถีทางเพื่อค้นหาลูกสาวจนพบให้จงได้
