นครพนม - เห็นแล้วอนาถ ถนนพังเกือบ 10 ปี ชาวบ้านร้องให้ช่วยซ่อมอ้างไม่มีงบ ผู้ปกครอง-นักเรียนบ้านโคกกลาง ต.เรณูนครยอมออกแรงขนหินซ่อมเองเฉพาะหน้า วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือทางหลวงชนบทช่วยดูแล เร่งแก้ไข หน้าฝนเดือดร้อนหนักสัญจรไปเรียนลำบาก ซ้ำเสี่ยงอุบัติเหตุ
วันนี้ (1 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนมได้มีตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่บ้านโคกกลาง ต.เรณูใต้ อ.เรณูนคร จ.นครพนม นำโดย นายอุดม จวงพลงาม อายุ 54 ปี ชาวบ้านโคกกลาง หมู่ 13 ต.เรณูใต้ อ.เรณูนคร จ.นครพนม พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน คณะอาจารย์ นักเรียนโรงเรียนบ้านโคกกลาง ออกมาเรียกร้องผ่านสื่อนำตรวจสภาพปัญหาความเดือดร้อนไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง
หลังจากได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาถนนในความรับผิดชอบของทางหลวงชนบท ระหว่าง อ.เรณูนคร ผ่านไปยังบ้านดงมะเอก บ้านบ่อสะอาด บ้านโคกกลาง ต.เรณูใต้ เชื่อมไปยังบ้านโคกเจริญ ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนครม จ.นครพนม และสามารถเชื่อมไปยัง อ.นาแก อ.ธาตุพนม ที่พังชำรุดเสียหาย เป็นหลุมเป็นบ่อมานานเกือบ 10 ปี
เคยเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหลายครั้งแต่ไม่ได้รับการแก้ไข จนชาวบ้าน ให้ฉายาว่า “ถนนแสนหลุม” ยิ่งในช่วงฤดูฝนทำให้สภาพถนนพังเสียหายหนัก เป็นหลุมเป็นบ่อ มีโคลนตมเป็นระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร เดือดร้อนชาวบ้านที่ใช้สัญจรไปมาเป็นเส้นทางหลักกว่า 500 ครัวเรือน
โดยเฉพาะลูกหลาน นักเรียนที่ขี่รถจักรยาน รถจักรยานยนต์สัญจรไปมาทุกวัน ได้รับความยากลำบาก เสี่ยงอุบัติเหตุ
ล่าสุดหลังชาวบ้าน รวมถึงลูกหลานได้เรียกร้องไปขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานรับผิดชอบ แต่ได้รับคำตอบว่ามีปัญหาขาดแคลนงบประมาณ ไม่สามารถทำการซ่อมแซมได้
ชาวบ้านจึงได้ร่วมกับลูกหลาน นักเรียนในหมู่บ้านใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน และวันหยุดร่วมกันออกแรงนำรถเข็น จอบเสียมไปขุดดิน และหินในพื้นที่ใกล้เคียงมาถมถนนแสนหลุมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมมีการถ่ายคลิปปัญหาความเดือดร้อน และการร่วมแรงร่วมใจของน้องๆ นักเรียนที่ช่วยกันปรับปรุงซ่อมถนนเองนำไปโพสต์ขอความเมตตาจากหน่วยงานภาครัฐหาทางมาแก้ไขซ่อมแซม และเรียกร้องผ่านสื่อให้หน่วยงานเกี่ยวข้องหาทางแก้ไข
นายอุดม จวงพลงาม อายุ 54 ปี ชาวบ้านโคกกลาง หมู่ 13 ต.เรณูใต้ อ.เรณูนคร จ.นครพนม กล่าวว่า สำหรับถนนลาดยางเส้นจาก อ.เรณูนครไปยังบ้านโคกกลาง ต.เรณูใต้ อ.เรณูนคร จ.นครพนม ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ชาวบ้านเดือดร้อนจากสภาพถนนเป็นหลุมเป็นบ่อมานานเกือบ 10 ปี เนื่องจากมีสภาพชำรุดพังเสียหายหนัก เป็นหลุมลึก บางจุดลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก
เนื่องจากเป็นเส้นทางหลัก โดยเฉพาะลูกหลาน นักเรียนที่สัญจรไปเรียนหนังสือทุกวันต้องทนทุกข์กับสภาพถนน ยิ่งฤดูฝนยิ่งเดือดร้อนหนัก ทั้งหลุม ทั้งดินโคลน น้ำขัง เคยหารือร่วมกันระหว่างชุมชน หมู่บ้าน โรงเรียน ทำหนังสือร้องทุกข์ไปยังหน่วยงานรับผิดชอบทางหลวงชนบทหลายครั้ง แต่ได้รับคำตอบว่ามีปัญหาเรื่องงบประมาณไม่เพียงพอ ทำให้ชาวบ้านหมดหวัง
จึงยอมร่วมกันออกแรงกับลูกหลาน นักเรียน ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน วันหยุด นำรถเข็นไปขนดินขนหินมาทำการซ่อมแซมเองตามสภาพ บรรเทาความเดือดร้อนเพราะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ฝากวิงวอนขอความเมตตาไปยังผู้มีอำนาจหาทางช่วยเหลือเร่งด่วน
นอกจากนี้ ลูกหลานเยาวชน นักเรียนในหมู่บ้านได้ออกมาระบุว่า ถนนดังกล่าวเป็นหลุมเป็นบ่อมานานหลายปี ต้องทนกับการขี่รถจักรยาน รถจักรยานยนต์หลบหลุมตลอดเส้นทาง เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ช่วงฝนตกยิ่งมีน้ำขังเป็นโคลนตม สัญจรไปมาลำบาก
จึงต้องร่วมแรงร่วมใจกันขนหินขนดินมาถมหลุมเองเพราะเดือดร้อนหนัก ไม่รู้จะไปพึ่งหน่วยงานไหน อยากวอนผู้ใหญ่ใจดีมาดูแลช่วยเหลือ อยากได้ถนนสัญจรใหม่ จะได้เดินทางไปโรงเรียนสะดวก
