xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนานครพนมน้ำตาเล็ด หลังน้ำลดนาข้าวเน่าตายแล้วกว่า 2 แสนไร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครพนม-ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหลังน้ำลด เบื้องต้นนาข้าวกว่า 2 แสนไร่เน่าตาย ถนนสัญจรพัง จังหวัดเร่งตรวจสอบช่วยเหลือ ลำน้ำก่ำคลี่คลาย ด้านลำน้ำสงครามยังเฝ้าระวัง

วันนี้ (14 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม สถานการณ์น้ำในพื้นที่ อ.นาแก อ.วังยาง และ อ.เรณูนคร ที่ได้รับผลกระทบหนักจากปัญหาลำน้ำก่ำ ลำน้ำสาขาแม่น้ำโขงที่รับน้ำมาจาก หนองหาร จ.สกลนคร เอ่อล้นทะลักท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือน มานานกว่า 20 วัน

โดยเฉพาะพื้นที่บ้านปากบัง และบ้านพิมานท่า ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ได้รับผลกระทบหนักสุด เนื่องจากเป็นพื้นที่จัดบรรจบของลำน้ำบังมาบรรจบกับลำน้ำก่ำ ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง ทำให้ระดับน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร เป็นเวลานานกว่า 20 วัน

ล่าสุดระดับน้ำได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ แต่มีปัญหาเรื่องพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรในพื้นที่ ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม ได้รับความเสียหายเน่าตายเกือบ 5,000 ไร่ ไม่สามารถที่จะรอการเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ และไม่สามารถทำนารอบสองได้เนื่องจากมีปัญหาต้นทุน รวมถึงฤดูฝนเริ่มหมด จะมีปัญหาเรื่องขาดแคลนน้ำในระยะยาว ต้องรอเพียงการพิจารณาดูแลช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม พบว่ามีพื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 40,000 ไร่

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องถนนสัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้าน ในพื้นที่บ้านพิมานท่า เชื่อมไปยังบ้านปากบัง ต.นาแก อ.นาแก มุ่งหน้าสู่ ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร จ.นครพนม ซึ่งเป็นเส้นทางหลัก ถนนลูกรังเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ระยะทางประมาณเกือบ 5 กิโลเมตร หลังน้ำลดลงถนนได้รับความเสียหายเกือบทั้งสาย เป็นหลุมเป็นบ่อโคลน ขนาดใหญ่ รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ ผ่านได้เพียงรถจักรยาน และรถจักรยานยนต์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้องได้เร่งสำรวจหาทางแก้ไข บรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วน

โดยทางชลประทานประตูน้ำก่ำตอนล่างที่ดูแลควบคุมน้ำก่อนลงสู่น้ำโขงยังคงเร่งระบายน้ำวันละประมาณ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนน้ำหนองหาร และลำน้ำก่ำ ระดับน้ำลดต่อเนื่องใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ เหลือประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์

ในส่วนของพื้นที่ จ.นครพนม จากการสรุปผลกระทบหลังมีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ รวม 10 อำเภอ มีนาข้าวได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 แสนไร่ ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 20,612 ครัวเรือน รวม 62,561 คน มีถนนสัญจรได้รับความเสียหายกว่า 60 สาย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบให้การช่วยเหลือต่อเนื่อง เนื่องจากพื้นที่ลุ่มน้ำอูน น้ำสงคราม เขต อ.ศรีสงคราม อ.นาหว้า และ อ.ท่าอุเทน ยังมีปัญหาระดับน้ำยังทรงตัว อยู่ที่ระดับประมาณ 12 เมตร ยังเกินความจุประมาณ 1 เมตร


แต่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องเพราะฝนไม่ตกมาหลายวัน ส่วนหมู่บ้านที่มีปัญหาน้ำท่วม ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว สามารถเดินทางสัญจรได้ พร้อมเร่งฟื้นฟู คือ พื้นที่ ต.นาคูณ อ.นาหว้า จ.นครพนม

ยังเหลือเพียงบ้านท่าบ่อ ต.ท่าบ่อสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ที่ยังมีน้ำท่วมขัง และเฝ้าระวังเนื่องจากอยู่ติดกับลำน้ำสงคราม มีบ้านเรือนเสี่ยงได้รับผลกระทบกว่า 500 หลังคาเรือน

ด้าน นายคำพอง พ่ออามาตย์ ผู้ใหญ่บ้านปากบัง ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ หลังระดับน้ำลดพบว่าปัญหาใหญ่ของชาวบ้านคือ เรื่องของที่นาถูกน้ำท่วมขัง เนื้อที่เกือบ 5,000 ไร่ ชาวบ้านเกือบ 200 ครัวเรือนได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากเป็นนาปีที่ปักดำแล้วเสร็จประมาณ 2 เดือน

แต่น้ำท่วมขังหลายวันทำให้ต้นข้าวเน่าตาย คาดว่าเสียหายทั้งหมดเพราะระดับน้ำลดเฉพาะพื้นที่หมู่บ้านแต่ทุ่งนายังท่วมขัง สิ่งที่ตามมาคือขาดทุน ภาระหนี้สิน ขั้นต่ำลงทุนไม่ต่ำกว่าไร่ละ 2,000 บาท เพราะต้นทุนสูง แต่น้ำท่วมตายอีก ขาดทุนหนักซ้ำ ต้องอาศัยรอความหวังภาครัฐหาทางช่วยเหลือเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีถนนหนทางระหว่างหมู่บ้านเสียหายทั้งหมด ถูกน้ำกัดเซาะ ตัดขาด เละเป็นโคลนตม รถยนต์ยังสัญจรไม่ได้ ต้องใช้รถไถการเกษตร ลูกหลานไม่สามารถไปเรียนได้เกือบครึ่งเดือน วอนหน่วยงานภาครัฐ ผู้มีอำนาจเร่งเยียวยาช่วยเหลือ ที่สำคัญอยากให้แก้ไขปัญหาถาวร เพราะตั้งแต่ก่อตั้งหมู่บ้านมากว่า 120 ปีต้องทนทุกข์น้ำท่วมเกือบทุกปี แต่ยังไม่มีการสนับสนุนงบประมาณแก้ไขจริงจัง มีเพียงการเยียวยาหลังน้ำลด พอถึงหน้าฝนก็เจอปัญหาซ้ำซากอีก

โดยการสรุปเบื้องต้นเฉพาะบ้านปากบังคิดค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท ถือว่าหนักที่สุดในรอบหลายสิบปี

กำลังโหลดความคิดเห็น