กาฬสินธุ์ - เดินหน้าสร้างฝายมีชีวิตป้องกันน้ำหลากช่วงหน้าฝน ขณะที่จังหวัดกาฬสินธุ์ สรุปสถานการณ์น้ำท่วมภาพรวมความเสียหายจากน้ำท่วมจากอิทธิพลพายุ “ตาลัส” และ “เซินกา” ทำพื้นที่การเกษตรจมน้ำเสียหายกว่า 3 แสนไร่ สูญกว่า 300 ล้านบาท
วันนี้ (25 ส.ค.) ที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงนามน บริเวณบ้านนามน ต.โคกสมบูรณ์ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ นายสายัน กมลมูล นายกอบต.โคกสมบูรณ์ พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่น และประชาชนใน ต.โคกสมบูรณ์ ร่วมกันน้อมนำศาสตร์พระราชา ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างฝายมีชีวิต แห่งที่ 7 ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงนามน
โดยฝายมีชีวิตจะคล้ายกับแก้มลิง ซึ่งจะช่วยชะลอน้ำ และป้องกันน้ำไหลหลากในช่วงหน้าฝน ตลอดจนเป็นการร่วมกันอนุรักษ์ผืนป่า ทำให้ต้นไม้นานาพันธุ์ในป่าสงวนแห่งชาติป่าดงนามนแห่งนี้ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 12,500 ไร่ ครอบคลุม 5 อำเภอ 2 จังหวัด คือ จ.กาฬสินธุ์ และ จ.ร้อยเอ็ด ให้มีความชุ่มชื้น คืนความสมดุลกลับคืนสู่ธรรมชาติ ตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9
นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การสร้างฝายมีชีวิตแห่งนี้น้อมนำศาสตร์พระราชา พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีพระราชดำรัสให้สร้างแก้มลิงชะลอน้ำ โดยฝ่ายแห่งนี้สร้างขึ้นเหมือนกับแก้มลิง โดยใช้วัสดุธรรมชาติที่หาได้ในท้องถิ่น และเป็นมิตรต่อธรรมชาติ จะสามารถป้องกันน้ำไหลหลากออกจากป่าสงวนแห่งชาติป่าดงนามน ช่วงหน้าฝน และชะลอกักเก็บน้ำช่วงหน้าแล้ง ทำให้พื้นที่ป่า 12,500 ไร่ เกิดความสมดุล และมีความอุดมสมบูรณ์
ด้าน นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุตาลัส และพายุเซินกา ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายสู่ภาวะปกติแล้ว 13 อำเภอ เหลืออีก 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.กมลาไสย อ.ยางตลาด อ.ฆ้องชัย และ อ.ร่องคำ ที่ยังคงมีน้ำท่วม เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว โดยภาพรวมความเสียหายล่าสุดทั้ง 18 อำเภอ ขณะนี้มีพื้นที่นาข้าวคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 243,407 ไร่ พืชไร่ 28,907 ไร่ พืชผลไม้ 2,027 ไร่ และพืชผักอื่นๆ อีก 85 ไร่ ยังไม่รวมความเสียหายของถนน และสิ่งสาธารณนูปโภคต่างๆ ประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินช่วยเหลือประมาณ 300 ล้านบาท
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 อำเภอ ปัจจุบันระดับน้ำกำลังลดลงเรื่อยๆ ส่วนปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำปาว ปัจจุบันอยู่ที่ 1,602 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 80.95% โดยระดับน้ำลงมาอยู่ในเกณฑ์ควบคุมสูงสุดแล้ว ซึ่งทางเขื่อนลำปาว ระบายน้ำผ่านทางระบายน้ำล้น (Spillway) ลงสู่ลำน้ำปาว 15 ล้าน ลบ.ม./วัน โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว ได้ส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามระดับน้ำในพื้นที่ตลอดอย่างต่อเนื่องทุกวัน