xs
xsm
sm
md
lg

กาฬสินธุ์เร่งบำบัดน้ำท่วมเน่าเสีย ผลิตประปาสะอาดช่วยชาวบ้าน เขื่อนลำปาวลดระบายน้ำเหลือ 15 ล้าน ลบ.ม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์ รณรงค์เร่งบำบัดน้ำเน่าเสียแช่ขังในสระน้ำหนองทุ่ม ต.ห้วยโพธิ์ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมให้มีน้ำประปาสะอาดใช้ ขณะที่เขื่อนลำปาวเริ่มลดระบายน้ำเหลือ 15 ล้าน
ลบ.ม.ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป จากเดิมระบายมากถึง 30 ล้าน ลบ.ม. คาด พื้นที่5 อำเภอ ที่น้ำยังท่วมขังระดับน้ำลดลงใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ

ที่แหล่งน้ำสาธารณะหนองทุ่ม บ้านเหล่าสูง ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พ.อ.สมบัติ จินดาศรี รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง ผอ.กอ.รมน.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้นำท้องถิ่นร่วมกันรณรงค์โครงการบำบัดน้ำเสียอุทกภัยน้ำแช่ขัง โดยน้ำหมัก พด.6 ภายในสระเก็บน้ำเพื่อการประปาหนองทุ่ม

ซึ่งแหล่งน้ำแห่งนี้ใช้เป็นแหล่งผลิตน้ำประปาให้กับประชาชนในบ้านเหล่าสูง ต.ห้วยโพธิ์ จำนวน 150 ครัวเรือน เพื่อบำบัดน้ำเสียให้กลับคืนสภาพใช้ประโยชน์ได้เหมือนเดิม หลังประสบปัญหาน้ำท่วมช่วงเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน และปัจจุบันน้ำที่ท่วมขังมีสภาพเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถนำน้ำไปผลิตน้ำประปาเพื่อใช้ในการอุปโภค บริโภคได้

นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากผลกระทบของพายุตาลัส และ พายุเซินกาในช่วงเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2560 ส่งผลให้พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เกิดความเสียหายในทุกด้าน ทั้งด้านการเกษตร ด้านคมนาคม ด้านเศรษฐกิจ และ ด้านสาธารณสุข และที่สำคัญ เกิดน้ำแช่ขังในบริเวณชุมชน โดยเฉพาะบ่อน้ำที่ใช้กักเก็บน้ำไว้เพื่อผลิตน้ำประปาอุปโภค บริโภค มีสภาพเหม็นเน่า ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดโรคภัยด้านสุขภาพได้

ดังนั้น ทาง จ.กาฬสินธุ์ จึงมอบหมายให้ทางสถานีพัฒนาที่ดินกาฬสินธุ์ช่วยบำบัดน้ำเสีย โดยใช้นวัตกรรมของกรมพัฒนาที่ดิน คือ การใช้น้ำหมักชีวภาพ พด.6 ซึ่งเป็นน้ำหนักชีวภาพที่ช่วยบำบัดน้ำเสียให้กลับคืนสภาพใช้ประโยชน์ได้ดังเดิม และเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบทั้ง 18 อำเภอ 126 ตำบล 1,276 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะได้รับความเสียหาย 307,411 ไร่ ซึ่งทางจังหวัดได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ 14 อำเภอ

ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมได้คลี่คลายกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 13 อำเภอ แต่ยังเหลืออีก 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และ อ.ร่องคำ ที่ยังคงประสบปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบและเป็นพื้นที่รับน้ำ จากการระบายน้ำของเขื่อนลำปาว ผ่านทางลำน้ำปาวและลำน้ำพาน ก่อนที่จะไหลลงแม่น้ำชี

ขณะที่สถานการณ์ล่าสุดจากอิทธิพลร่องมรสุมที่ทำให้ฝนตกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เหนือเขื่อนลำปาว มีมวลน้ำไหลเข้าเขื่อนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้เขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,654 ล้าน ลบ.ม. หรือ 83.54% ซึ่งระดับน้ำที่ควรอยู่ในเกณฑ์ควบคุม คือ 1,564 ล้าน ลบ.ม. ถือว่ายังเกินระดับเกณฑ์การควบคุมอีกอยู่กว่า 70 ล้าน ลบ.ม.


ซึ่งวันนี้ (20 ส.ค.) เป็นวันสุดท้ายที่ทางเขื่อนจะยังคงระบายน้ำออกที่ปริมาณ 30 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งครบเวลา 10 วัน ที่เขื่อนลำปาวร้องขอ และนับตั้งแต่วันที่ 21 - 30 สิงหาคมนี้ เป็นต้นไป เขื่อนลำปาวจะลดปริมาณการระบายน้ำจากวันละ 30 ล้าน ลบ.ม. เหลือวันละ 15 ล้าน ลบ.ม. ถ้าหากไม่มีปัจจัยที่ทำให้น้ำเข้าเขื่อนมากเกินไป หรือเกิดฝนตกหนัก ซึ่งจะทำให้พื้นที่ 5 อำเภอดังกล่าวที่ถูกน้ำท่วม ระดับน้ำก็จะลดลง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำท่วมใน 5 อำเภอ ปัจจุบันมีบ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบจำนวน 2,199 ครัวเรือน 24 หมู่บ้าน 11 ตำบล พื้นที่การเกษตร 134,129 ไร่ และต้องอพยพมายังศูนย์พักพิงชั่วคราว 120 ครัวเรือนนั้น ซึ่งบางพื้นที่สถานการณ์คลี่คลายลงบ้างแล้ว และได้เดินทางกลับภูมิลำเนา 80 ครัวเรือน ยังคงเหลือพักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิง 40 ครัวเรือน

ส่วนระดับน้ำหลายพื้นที่บางจุดระดับน้ำทรงตัว และหลายจุดระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 1 - 2 ซม. ซึ่งทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำกระสอบทรายเข้าเสริมพนังกั้นลำน้ำต่างๆ ที่เป็นจุดเสี่ยง และเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมยืนยันที่จะให้การช่วยเหลือและดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างดีที่สุด

กำลังโหลดความคิดเห็น