ศรีสะเกษ - คืบหน้าญาติ ผอ.กองการศึกษาที่หายไป บุกเข้าประเทศลาวค้นหาศพที่ผานางอิงแต่ไม่สามารถเข้าไปบริเวณที่พบศพได้ ประสานตำรวจลาวให้ช่วยบุกป่าเข้าไปถ่ายภาพออกมาให้แล้วแต่ยังไม่ทราบผล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายบุญเลิศ อุ่นอ่อน อายุ 62 ปี ชาวบ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู และเข้าร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนเพื่อให้ช่วยติดตามหา น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา
ล่าสุด นางแหลม อุ่นอ่อน อายุ 60 ปี แม่ พร้อมญาติได้เข้าร้องทุกข์ต่ออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ด้วย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.45 น. วันนี้ (22 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 65 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายโชคชัย สายแก้ว นายก อบต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ เปิดเผยว่า ตามที่เจ้าหน้าที่ของลาวได้แจ้งว่าพบศพหญิงผมยาวถูกห่อด้วยพลาสติกถูกทิ้งลงมาจากผานางอิงอยู่บริเวณชั้นที่ 3 ของผานางอิง ซึ่งตนและญาติพี่น้องได้บุกป่าภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ. อุบลราชธานี เพื่อเข้าไปที่บริเวณผานางอิง แต่ว่าไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากว่าไม่ได้รับการอนุญาตจากทางการของลาวนั้น
เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าศพดังกล่าวเป็นของใคร ดังนั้น เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 60 ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วยญาติพี่น้องจำนวน 4 คนจึงได้เข้าไปในเขตประเทศลาว โดยผ่านทางจุดผ่านแดนถาวรไทย-ลาว ช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี
นายก อบต.เสาธงชัยกล่าวต่อไปว่า จากนั้นตนได้ว่าจ้างรถของชาวลาวเดินทางไปที่เมืองกุสุมา แขวงจำปาสัก โดยผ่านช่องเม็ก อ.ตาอู อ.มน ถึงเมืองกุสุมา รวมระยะทางประมาณ 200 กม. และว่าจ้างรถไถนาเดินตามเพื่อเข้าไปที่บ้านเข็ม ประมาณ 10 กม. และจะต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 10 กม. จึงจะถึงผานางอิง
แต่ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้านของ อ.กุสุมาแจ้งว่าหากจะเดินเท้าเข้าไปที่ผานางอิงคงจะกลับออกมาไม่ทัน ดังนั้นตนจึงได้ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจของลาวให้จัดคนเข้าไปช่วยบันทึกภาพศพออกมาให้ด้วย ซึ่งตนได้จ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไว้ให้จำนวนหนึ่งด้วย
แต่ว่ายังไม่ทราบผลแต่อย่างใด และขณะนี้ตนได้ประสานงานเพื่อที่จะนำญาติพี่น้องเข้าไปในประเทศลาวเพื่อเดินทางไปยังบริเวณที่พบศพอีกครั้ง
นายก อบต.เสาธงชัยยังกล่าวด้วยว่า สภาพล่าสุดของศพที่ถูกทิ้งอยู่ที่ผานางอิงทราบว่าสวมกางเกงสามส่วน มีผ้ายางคล้ายกับเปลนอนสีดำติดอยู่บนต้นไม้ และคาดว่าเมื่อมีการโยนศพลงมาทำให้ศพหลุดจากผ้ายางตกลงมาที่บริเวณชั้นที่ 3 ของหน้าผา และศพได้ค้างอยู่บริเวณหน้าผาดังกล่าว แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัดว่าเป็นศพของผู้ใด จะต้องนำเอาศพออกมาเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอจึงจะทราบผลว่าศพดังกล่าวเป็นใคร
ทางด้าน นายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามีของ ผอ.อบต.สาวที่หายตัวไป กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้มาที่บ้านพักในตัว อ.กันทรลักษ์ เพื่อนำเอาเส้นผมรวมทั้งหลายส่วนที่เป็นของภรรยาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาขอเอาเส้นผมรวมทั้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำเอาไปใช้ในการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับศพที่พบถูกทิ้งอยู่ที่ผานางอิง ชายแดนลาว
ซึ่งแม้ว่าภรรยาจะอยู่ในสภาพใดตนก็ขอให้ได้พบ และแม้ว่าตนจะเหน็ดเหนื่อยมากกับการเดินป่าตามหาอ้อยแต่ว่าตนก็ไม่ท้อ จะยังคงตามหาตลอดไปจนกว่าจะพบอ้อย แม่ที่ดีของลูกที่ตนรักมาก