ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “อ.ชยันต์” นักวิชาการชื่อดัง พร้อมพวกรวม 5 คน เข้าพบตำรวจ สภ.ช้างเผือกเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาคดีชุมนุมเกิน 5 คน โดยไม่ได้รับอนุญาตในการประชุมวิชาการนานาชาติไทยศึกษาครั้งที่ 13 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพที่เชียงใหม่ โดยมีกลุ่มนักวิชาการ นักศึกษา นักกิจกรรมทางสังคม และเครือข่ายชนเผ่าแห่ให้กำลังใจแน่น
วันนี้ (21 ส.ค.) เวลาประมาณ 12.30 น. ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อาจารย์ ดร.ชยันต์ วรรธนะภูติ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคด้านสังคมศาสตร์ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ม.เชียงใหม่ พร้อมนายชัยพงษ์ สำเนียง, นายภัควดี วีระพาสพงษ์, นายธีรมล บัวงาม และนายนลธวัช มะชัย รวม 5 คน เข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามที่ถูกออกหมายเรียกคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.เรื่องการมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ในการประชุมวิชาการไทยศึกษานานาชาติครั้งที่ 13 ระหว่าง 15-18 ก.ค. 60 ที่จังหวัดเชียงใหม่
การเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในครั้งนี้พบว่ามีกลุ่มนักวิชาการ, นักศึกษา, เครือข่ายชนเผ่า รวมนักกิจกรรมทางสังคมทั้งไทยและต่างชาติร่วมให้กำลังใจจำนวนมาก
ขณะที่ก่อนหน้านี้ในช่วงเที่ยงวันเดียวกันนี้ ที่คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีการแถลงการณ์ กรณีอาจารย์ชยันต์ และพวกรวม 5 คน ถูกออกหมายเรียกให้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เนื่องจากจัดการจัดชุมนุมเกิน 5 คนโดยไม่ได้รับอนุญาต ในการจัดเวทีประชุมวิชาการนานาชาติไทยศึกษา ครั้งที่ 13 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพที่ผ่านมา โดยมี ดร.เกรียงศักดิ์เชษฐพัฒนวนิช อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ ผศ.ดร.ชูศักดิ์ วิทยาภัค คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าว
โดยมีเนื้อหาว่า จากกรณีที่รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดเชียงใหม่แจ้งความต่อสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก และมีการออกหมายเรียกให้ผู้จัดการประชุมและผู้เข้าร่วมประชุมวิชาการไทยศึกษานานาชาติครั้งที่ 13 ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา เรื่องการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. เรื่องการมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองในที่ใดที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังจากที่ได้ทราบข่าวทางภาคีเครือข่ายต่างๆ ก็รู้สึกตกใจและผิดหวังกับการแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว และได้มีการออกหนังสือชี้แจงว่า การประชุมวิชาการไทยศึกษานานาชาติ ถือเป็นเวทีวิชาการหลักที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับไทยศึกษา ทั้งในด้านภาษาศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมไปถึงอนาคตของสังคมไทย ท่ามกลางความท้าทายของโลกโลกาภิวัตน์
ในที่ประชุมได้มีนักวิชาการทั้งจากในประเทศและระหว่างประเทศมาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้สร้างความหวาดกลัวแก่ที่ประชุมถือเป็นการละเมิดกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และยังถือว่าไม่ปฏิบัติตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
อีกทั้งการถือป้ายมหาวิทยาลัยไม่ใช่ค่ายทหาร ก็ถือเป็นกิจกรรมเล็กน้อยที่เป็นเพียงการสื่อสารถึงความไม่เหมาะสมของการแทรกตัวของเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในการสัมมนาในครั้งนี้เท่านั้น ซึ่งการออกหมายเรียกผู้จัดการประชุมและผู้เข้าร่วมประชุมในข้อกล่าวหา ฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้า คสช.เรื่องการมั่วสุมทางการเมือง ถึงไม่สมเหตุสมผล และก่อให้เกิดการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีการแถลงข่าวและเรียกร้องให้มีการถอนการแจ้งความและยุติการคุกคามเสรีภาพทางวิชาการและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เหมือนจากการกระทำดังกล่าวไม่ใช่การเคลื่อนไหวทางการเมือง