รองนายกฯ นัด กรธ.ถกปมตั้งคุณสมบัติกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระไว้สูง แย้มมีช่องแก้ไม่ยาก รับทั้ง สตง.-คตง.มาฟ้องทั้งคู่หลังเกิดศึกภายใน ยันไม่ถึงขั้นขัดแย้งแตกร้าว ระบุรอสรรหาทีเดียวใน ก.ย.ไม่ใช่ทางออก
วันนี้ (11 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีการส่งรายชื่อกรรมการสรรหาคณะกรรมการสรรหากรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) มาจากองค์กรอิสระเพียงองค์กรเดียว คือ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่วนองค์กรอื่นอ้างว่าหาผู้มีคุณสมบัติกรรมการสรรหาไม่ได้ เนื่องจากมีการวางคุณสมบัติไว้สูงว่า ที่พูดถึงคือคุณสมบัติของกรรมการสรรหา ไม่ใช่คุณสมบัติของผู้เข้ารับการสรรหา เนื่องจากมีการตั้งคุณสมบัติไว้สูง เช่น ต้องไม่เคยเป็นข้าราชการ ไม่เคยทำงานในหน่วยงานของรัฐ ต้องมีอายุไม่เกิน 70 ปี หากไปเอามาจากเอกชนอาจไม่มีความรู้พอ ถ้าเอามาจากข้าราชการบำนาญจะติดเงื่อนไขต่างๆ แต่คุณสมบัติดังกล่าวเป็นไปตามที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กำหนด ตนได้นัด กรธ.มาพูดคุยเพื่อให้เกิดความชัดเจน แน่นอนหากไม่ทันตามกรอบเวลาการสรรหาในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 23/2560 จะต้องขยาย ซึ่งไม่ต้องออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ใหม่ แต่ไม่สามารถแก้คุณสมบัติได้ เพราะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกที่กำลังจะร่าง โดย กรธ.เตรียมการแก้ปัญหาไว้แล้ว และได้คุยกับประธานกรรมการสรรหา เห็นช่องทางที่แก้ได้ไม่ยุ่งยากอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประธานกรรมการสรรหาได้เล่าความขัดแย้งระหว่างผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กับ คตง.ให้ฟังหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ให้หน่วยงานดังกล่าวเป็นคนพูดจะดีกว่า เพราะมีการมาฟ้องตนทั้งสองฝ่าย ตนไม่สามารถบอกสื่อได้ เมื่อถามว่า จะกลายเป็นความขัดแย้งภายในหน่วยงานหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ความขัดแย้งมีในทุกหน่วยงาน แต่ไม่ถึงกับเป็นความขัดแย้งแตกร้าว เมื่อมีประเด็นขึ้นมา แต่ละฝ่ายคิดไม่เหมือนกัน สุดท้ายจะจบลง
ต่อข้อถามอีกว่า จะต้องแก้คำสั่งหัวหน้า คสช.ในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ขอรอดูก่อนว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพราะกลัวว่าหากแก้แล้วไม่หมดจะมีเรื่องอื่นอีก เมื่อถามอีกว่า การรอสรรหาในเดือน ก.ย. จะเป็นทางออกหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เป็นทางออก