เปิดคลิปเหิมเย้ย กม. แก๊งคนร้ายบุกตัด “ไม้พะยูง” ใน ร.ร.สุรินทร์ แฉอาละวาดหนัก-ตร.จับไม่ได้ (ชมคลิป)

สุรินทร์ - กล้องวงจรปิดบันทึกภาพแก๊งคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 9 คน พร้อมอาวุธครบมือ เหิมเกริมบุกตัดไม้พะยูงในโรงเรียน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ รอบที่ 4 อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เผยอาละวาดหนักตระเวนตัดต้นพะยูงในวัด หมู่บ้าน และโรงเรียนต่อเนื่อง ตำรวจยังจับมือใครดมไม่ได้ ขณะชาวบ้านผวาอิทธิพล



วันนี้ (16 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์ได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวว่า มีคลิปวิดีโอจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดสามารถบันทึกภาพกลุ่มคนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูง ในโรงเรียนบ้านศรีนวล ต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ไว้ได้อย่างชัดเจน เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 29 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมา

โดยในภาพวิดีโอมีคนร้ายจำนวน 9 คน ขับขี่รถยนต์กระบะไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน มาจอดบริเวณถนนหน้าประตูทางเข้าโรงเรียน ก่อนพากันลงจากรถพร้อมไฟฉายส่อง เลื่อยโซ่ยนต์ มีการสะพายกระเป๋าคาดตัวคาดว่ามีการพกอาวุธปืนติดตัวมาด้วย และทุกคนใช้ผ้าคลุมปกปิดใบหน้า ก่อนเดินตรงเข้ามายังต้นไม้พะยูงที่อยู่ห่างจากประตูรั้วของโรงเรียนประมาณ 30 เมตร โดยที่รถยนต์กระบะได้เคลื่อนตัวออกไปจอดรออยู่ด้านนอก

ก่อนกระจายกำลังกันยืนดูต้นทางที่ถนนด้านหน้าและในโรงเรียน บางส่วนแบ่งหน้าที่กันลงมือตัดต้นไม้พะยูงของโรงเรียนที่มีอายุร่วม 100 ปี ซึ่งภาพวงจรปิดสามารถจับภาพได้จนถึงขณะที่คนร้ายยกเลื่อยโซ่ยนต์เพื่อตัดเท่านั้น เพราะกิ่งไม้พะยูงได้หักลงมาทับสายไฟฟ้าเสียก่อน จึงทำให้กระแสไฟฟ้าดับ รวมไปถึงกล้องวิดีโอวงจรปิดของโรงเรียนต้องหยุดทำงานไปด้วย


นางมาลี นามหนวด ผู้ใหญ่บ้านศรีนวล เปิดเผยว่า ขณะที่คนร้ายกำลังก่อเหตุอยู่นั้น ตนได้โทรศัพท์แจ้งให้คนในชุมชนออกไปดู แต่คนร้ายได้หลบหนีไปก่อนหน้านั้นแล้ว หลังจากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งไปยัง สภ.สังขะ โดยมี ร.ต.อ.กิตติพงษ์ หงษ์สูง ร้อยเวร สภ.สังขะ อ.สังขะ เป็นเจ้าของคดี พร้อมได้นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที จากการตรวจสอบพบว่าไม้พะยูงอายุกว่า 100 ปีซึ่งอยู่ภายในโรงเรียนได้ถูกตัดกิ่งขนาดใหญ่ จำนวน 2 กิ่ง ซึ่งคนร้ายไหวตัวทันหลบหนีไปได้พร้อมไม้พะยูงที่เพิ่งตัดได้บางส่วนไปเท่านั้น ทิ้งกิ่งไม้พะยูงขนาดใหญ่อีก 1 กิ่งไว้ให้ดูต่างหน้า

ผู้ใหญ่บ้านศรีนวลเปิดเผยอีกว่า ไม้พะยูงภายในโรงเรียนบ้านศรีนวลเคยถูกกลุ่มคนร้ายลักลอบตัดไปแล้ว 3-4 ครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดเผยว่า กรณีที่มีคนร้ายมาลักลอบตัดไม้พะยูงในครั้งนี้ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งที่ 4 แล้ว

ด้าน ร.ต.อ.กิตติพงษ์ หงษ์สูง ร้อยเวร สภ.สังขะ อ.สังขะ กล่าวว่า อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งตรวจสอบภาพวงจรปิดเพื่อติดตามตัวแก๊งคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มแก๊งเดียวกันที่ก่อเหตุในพื้นที่ อ.สังขะ อยู่ในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์คนร้ายลักลอบตัดไม้พะยูงทั้งในชุมชน หมู่บ้าน วัด และโรงเรียนในลักษณะนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของ จ.สุรินทร์อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่จะเน้นต้นไม้พะยูงที่อยู้ในโรงเรียน ประกอบด้วย ลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนบ้านกะเลงเวกทับทิมสยาม ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ โดยก่อเหตุเวลาเช้ามืดวันที่ 14 ส.ค. 2560 ที่ผ่านมา เป็นต้นไม้พะยูงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 เซนติเมตร อายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี ก่อนพากันขนหลบหนีไป

2. ลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณทุ่งนา ด้านทิศตะวันออกของบ้านโคกยาง หมู่ 13 ต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เมื่อกลางดึกของวันที่ 11 ส.ค. 60 3. ลักลอบตัดไม้พะยูงใน ร.ร.สหราษฎร์วิทยา บ้านด่านเจริญ ต.กระเทียม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 ส.ค. 60 ที่ผ่านมา 4. ลักลอบตัดไม้พะยูงภายในโรงเรียนหนองขุ่นศรีวิทยา หมู่ 11 ต.แคน อ.สนม จ.สุรินทร์ จับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย อีก 3 รายหลบหนีไปได้ เมื่อกลางดึกของวันที่ 4 ก.ค. 60 5. คนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ลักลอบตัดไม้พะยูงที่พระสงฆ์และชาวบ้านบวชและบิณฑบาตไว้ ที่บริเวณป่าช้าท้ายหมู่บ้านอาพืด โดยเหตุเกิดคืนวันที่ 4 ส.ค. 2560 เวลาประมาณ 23.00 น. และก่อเหตุลักลอบตัดไม้พะยูงในโรงเรียนบ้านศรีนวล ต.สังขะ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ คนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 9 คน พร้อมอาวุธปืน ก่อเหตุช่วงเช้ามืดของวันที่ 29 ก.ค. ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ดังกล่าว

ทั้งนี้ ในแต่ละพื้นที่ที่เกิดเหตุ ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่กล้าให้ข้อมูลและเปิดเผยตัวกับผู้สื่อข่าวเพราะเกรงจะไม่ปลอดภัยจากอิทธิพลของแก๊งตัดไม้พะยูง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวแก๊งดังกล่าวได้ โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.สังขะ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องติดต่อกันถึง 3 ครั้ง ในเวลาเพียงไม่ถึงสัปดาห์

ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ให้ช่วยเร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการแก๊งลักลอบตัดไม้พะยูงดังกล่าวโดยเร่งด่วน เพราะชาวบ้านต่างหวาดผวากับเหตุการณ์ลักษณะนี้ อีกทั้งต่างเป็นห่วงทรัพยากรป่าไม้ที่สำคัญก่อนจะหมดไปอีกด้วย