ลำปาง - แม่ชาวลำปางพาลูกวัยโจ๋ อายุ 18 ปี ร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ อ้างถูกการ์ดผับดังกลางเมืองรุมยำจนดั้งหัก ต้องนอนโรงพยาบาลถึง 5 วัน แถมส่อเปิดบริการเกินเวลา เด็กเช็กอินหราตอนตีหนึ่งกว่า แถมดื่มต่อถึงตีสามเศษ ก่อนถูกรุมสกรัม ด้าน ส.ท.เจ้าของยันเรื่องเกิดนอกร้าน-ปิดตรงเวลาเป๊ะ
วันนี้ (15 ส.ค.) นางชีวารัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี ได้พาลูกชายคือ นายอัษฎา อายุ 18 ปี เข้าร้องต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง หลังลูกถูกทำร้ายหน้าสถานบันเทิงดังแห่งหนึ่งกลางเมืองลำปางเมื่อวันที่ 30-31 ก.ค.ที่ผ่านมา จนจมูกหัก ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 5 วัน แต่ทางเจ้าของสถานบันเทิงดังกล่าวไม่มารับผิดชอบใดๆ แถมยังส่งข้อความข่มขู่ลูกเรื่อยมาเพื่อไม่ให้เอาเรื่องกับทางร้าน
นายอัษฎาบอกว่า เมื่อเวลา 24.00 น.เศษ ของวันที่ 30 ก.ค. ย่างเข้าวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมเพื่อนในห้องเรียนจำนวน 6 คนได้พากัน ไปเที่ยวในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งกลางเมืองลำปางตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน จนถึงเวลาตีหนึ่งกว่าๆ ตนยังได้โพสต์เฟซบุ๊กเช็กอินในตำแหน่งที่ตั้ง คือร้านที่เกิดเหตุ โชว์เพื่อนๆ ด้วย
จากนั้นตนกับเพื่อนนั่งดื่มกันยาวไปจนถึงเวลาประมาณตี 3 กว่า จึงได้เช็กบิลเพื่อจะกลับบ้าน โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1 พันกว่าบาท แต่ระหว่างนั้นน้องที่มาด้วยกันได้ทะเลาะกัน ตนจึงเดินไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่จะมีคนดึงตนออกไปนอกร้าน และมีคนชกเข้าที่ใบหน้าของตน
หลังจากนั้นก็เกิดการจะชุลมุนกันขึ้น โดยมีกลุ่มคนมากกว่า 10 คน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการ์ดของสถานบันเทิง ถือมีด และปืนเข้ามาจ่อที่หน้าตน ผ่านไปประมาณ 10-15 นาทีเหตุชุลมุนก็ยุติ และตนก็ถูกชกเข้าที่จมูกจนหักเลือดสาด เพื่อนจึงรีบพาไปโรงพยาบาล และต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 5 วัน
ด้านนางชีวารัตน์ มารดาของนายอัษฎา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุวันนั้นตนไม่ทราบว่าลูกจะไปเที่ยว และได้ทำอาหารไว้รอ แต่ลูกขอออกไปข้างนอก บอกเพียงว่าไปไม่นานแล้วก็หายไป ตนรอลูกถึงตีห้า จนกระทั่งตีห้ากว่าเพื่อนของลูกมาบอกว่าลูกชายถูกทำร้ายเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปาง
หลังทราบเรื่องตนพร้อมสามีจึงเดินทางไปดูลูกที่โรงพยาบาลก่อน จากนั้นจึงเดินทางไปที่สถานบันเทิงที่เกิดเหตุ พบมีการ์ดจำนวนกว่า 10 คนนั่งดื่มเหล้าอยู่หน้าร้าน สอบถามไม่ได้ข้อมูลใดๆ ต่อมามีคนรู้จักเข้ามาเป็นคนกลางพยายามไกล่เกลี่ยเรื่องที่เกิดขึ้น โดยพาไปพบ ส.ท.รายหนึ่งซึ่งอ้างตัวเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว
โดย ส.ท.คนดังกล่าวรับปากว่าจะดูแลค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้ แต่ขออย่าเอาเรื่องกับทางร้าน ซึ่งนับจากวันนั้นผ่านมา 10 กว่าวัน เมื่อตนทวงถามถึงความรับผิดชอบก็เงียบ แถมยังส่งข้อความมาข่มขู่ลูกชายของตนอีกด้วย ซึ่งตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยเนื่องจาก ส.ท.คนดังกล่าวอ้างตัวเป็นผู้มีอิทธิพล ไม่มีใครมาทำอะไรได้ ตนจึงตัดสินใจนำเรื่องดังกล่าวเข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมให้ช่วยเหลือ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้รับเรื่องพร้อมกับโทรศัพท์สอบถามไปยัง ส.ท.คนที่ถูกกล่าวอ้าง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านที่ถูกร้องเรียน ได้รับการชี้แจงว่า วันเกิดเหตุเขาก็อยู่ที่ร้าน แต่เหตุที่เกิดขึ้นทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นไปมีเรื่องกันนอกร้าน ไม่ได้เกิดในร้าน และทราบว่ากลุ่มที่ทะเลาะกันมีเรื่องกันมาก่อนแล้ว และคนที่ทำร้ายก็ไม่ใช่การ์ดของร้านแต่อย่างใด
เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามว่าทางร้านได้เปิดเกินเวลาหรือไม่ ส.ท.เจ้าของร้านระบุว่า ทางร้านเปิดตามเวลาที่กำหนดคือเที่ยงคืนเศษเท่านั้น และยืนยันว่าไม่ได้อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ และไม่ได้จำหน่ายสุราให้เด็ก ส่วนเรื่องที่ทะเลาะกันตนเคยให้ทั้งสองฝ่ายมาตกลงกันแล้ว แต่ก็ตกลงกันไม่ได้
เบื้องต้นทงเจ้าหน้าที่แนะนำให้ผู้ปกครองนำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในกรณีการทำร้ายร่างกาย ส่วนเรื่องร้องเรียนกรณีที่ร้านอนุญาตให้เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการ และจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เยาวชน-เปิดสถานบริการผิดประเภท และไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะได้ให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุดต่อไป